ภาษา (รัก) ปลดล็อกปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว

ตอนเด็กฉันตกหลุมรักภาษาอังกฤษจากเพลงและหนัง เลยฝันอยากมีแฟนเป็นฝรั่ง พอโตขึ้นฉันก็พบรักกับหนุ่มต่างชาติจริง ๆ  แต่กลายเป็นแขกอินเดียนะ คู่รักต่างชาติอย่างเราก็มีปัญหาคุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจบ้าง ฉันมักจะงอนฮันนี่ของฉันเพราะเค้าฟังสำเนียงภาษาอังกฤษแบบไทย ๆ ของฉันไม่รู้เรื่อง (สักที)

แล้ววันหนึ่งฉันก็มีโอกาสได้รู้จัก ภาษารัก ฉันจึงเริ่มเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของเราสองคน เฮ้อ รู้งี้เอาเวลาไปเรียนภาษารัก แทน ภาษาอังกฤษตั้งนานแล้วดีกว่า

ภาษารักคืออะไร สำคัญอย่างไร

ความรักก็มีภาษาในการสื่อสารนะ เรียกว่า ภาษารัก เราแต่ละคนล้วนมีภาษารักที่แตกต่างกัน ภาษาที่คุณใช้ในการแสดงความรักอาจแตกต่างจากภาษาของอีกฝ่าย เหมือนพูดกันคนละภาษา คนนึงพูดภาษาไทย แต่อีกคนพูดภาษาอังกฤษ เลยไม่เข้าใจกัน ทั้งที่อีกฝ่ายก็พยายามที่จะทำดีที่สุด แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยรับรู้ถึงความรักนั้นเลย ถังรักของเราจึงว่างเปล่า เราต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักภาษารักของกันและกันจะได้แสดงความรักได้ถูกต้องตามที่อีกฝ่ายต้องการ

  ภาษารัก 5 ภาษา

1.  คำพูด         2.     เวลาคุณภาพ       3    ของขวัญ         

4   ทำบางสิ่งบางอย่างให้          5.  สัมผัสทางกาย

ภาษารักกับชีวิตคู่

หลังแต่งงานฮันนี่ไม่ค่อยได้บอกรักฉันเหมือนก่อนแต่ง  แต่ว่าฉันชอบให้ฮันนี่บอกรักบ่อย ๆ โดยไม่เคยเบื่อเลย ฮันนี่ชอบพูดว่า “Action speaks louder than word” พูดง่าย ๆ ก็คือ คำพูดไม่สำคัญเท่าการกระทำหรอก การที่ฉันแต่งงานกับเธอก็แสดงว่ารักเธอแล้วไม่ใช่หรือ แต่เวลาที่ฉันไม่ได้ยินคำว่ารักจากปากของฮันนี่ฉันมักจะรู้สึกว่าเค้าไม่รักฉัน ฉันชอบถามเค้าว่า “เธอยังรักฉันอยู่รึป่าว” จนเค้ารู้สึกเสียใจว่าทำไมฉันไม่เชื่อใจเค้า

พอฉันได้รู้จักภาษารักห้าภาษา ฉันก็เข้าใจปัญหาของเราสองคนทันที ภาษารักของฉันคือ “คำพูด” เมื่อฮันนี่ไม่แสดงความรักในภาษาของฉัน ฉันจึงรู้สึกว่าเค้าไม่รักฉัน ทั้งที่จริง ๆ แล้วเค้าก็ยังรักฉันเหมือนเดิม หรือ มากกว่าเดิม หลังจากที่เราสองคนรู้จักภาษารักของกันและกันแล้ว ถังรักของเราก็ได้รับการเติมให้เต็ม แม้ว่าภาษาอังกฤษสำเนียงไทยของฉันยังคงทำให้ฮันนี่ปวดหัวเหมือนเดิมก็ตาม

ภาษารักกับครอบครัว

อีกครั้งที่ภาษารักช่วยชีวิตฉันไว้ ตอนช่วงดูแลคุณแม่ที่ไม่สบาย เดินไม่ได้ ฉันมีปัญหากับแม่บ่อยมากจนเครียด วันหนึ่งฉันคุยปัญหานี้กับโค้ชเพราะอยากมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับแม่ อยากเข้าใจแม่มากขึ้น จะได้ดูแลแม่ให้แฮปปี้ และเราไม่เหนื่อย เครียด คำถามแรกที่โค้ชถามคือ “พี่เข้าใจแม่แค่ไหน รู้จักภาษารักของแม่พี่มั้ย”  อึ้งไปเลย คือไม่รู้ และไม่เคยคิดว่าต้องรู้ด้วย ตอนรู้จักภาษารักครั้งแรกก็นึกถึงแต่แฟน วันนั้นเลยได้ทบทวนภาษารัก และนำมาใช้อีกครั้ง

ภาษารักของฉันคือ คำพูด กับ เวลาคุณภาพ  ฉันจึงถนัดใช้ภาษารักของตัวเองแสดงความรักให้แม่ด้วยการใช้เวลากับแม่  เข็นรถไปรอบ ๆ หมู่บ้าน นวด เล่นเกมฝึกสมอง แต่แม่มักจะไล่ฉันไปทำกับข้าว ทำนู่นทำนี่ตลอด จนฉันแอบน้อยใจว่าอุตส่าห์สละเวลาที่มีค่าให้  แต่ทำไมแม่ไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่ฉันพยายาม ก็เพราะว่าภาษารักของแม่ไม่ใช่เวลาคุณภาพ แต่เป็น  ของขวัญ กับ ทำบางสิ่งบางอย่างให้ สรุปง่าย ๆ ว่าฉันใช้พลังงานทุ่มเทแสดงความรักให้แม่ในวิธีที่ไม่เกิดผลเลย คนให้ก็เหนื่อย คนรับก็ไม่ถูกใจ ไม่เห็นคุณค่า เหมือนเติมถังรักด้วยน้ำมันผิดประเภท เครื่องยนต์เลยขัดข้อง

เปลี่ยน ภาษารัก ปรับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น

หลังจากวันนั้นฉันเปลี่ยนมาแสดงความรักด้วยภาษาของแม่ เพราะการให้ของขวัญ สำหรับแม่ คือ ฉันรักแม่ ฉันซื้อเสื้อให้แม่บ่อยขึ้น ไม่ต้องแพง แค่นี้แม่ก็ดีใจ ขยันทำสิ่งที่แม่ขอให้ทำ เช่น ตัดต้นไม้ ทำกับข้าวที่แม่ชอบ  ความสัมพันธ์ของเราสองคนดีขึ้นมาก ฉันหายเครียด บรรยากาศในบ้านดีขึ้น ข้อสำคัญแม่เลิกบ่นตัดพ้อน้อยใจ ซึ่งยิ่งทำให้ฉันเสียใจเพราะภาษารักของฉันคือคำพูด เดี๋ยวนี้แม่ขอบคุณฉันโดยเฉพาะเวลาที่ฉันทำหรือซื้อของโปรดให้แม่  ต้องขอบคุณโค้ชและภาษารักจริง ๆ

ภาษารักกับเด็ก

ปีก่อนฉันไปทำกิจกรรมวันวาเลนไทน์กับเด็ก ๆ สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่และครูยุคนี้เป็นห่วงก็เรื่องความประพฤติในเรื่องเพศ

ดร. รอส แคมพ์เบลล์ จิตแพทย์ที่พูดถึง ถังบรรจุรัก บอกว่าปัญหาความประพฤติทางเพศของวัยรุ่น พฤติกรรมฝ่ากฎระเบียบ และปัญหาอารมณ์ ล้วนมาจากถังบรรจุรักที่ว่างเปล่า

ไม่ใช่พ่อแม่ไม่รักลูกหรอก แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าพ่อแม่อาจจะไม่ได้แสดงความรักให้แก่ลูกด้วยภาษาที่ลูกต้องการก็ได้ พ่อแม่อาจจะขยันทำงานเพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก ซื้อของเล่นให้ลูกมากมาย  เข้าโรงเรียนอินเตอร์ แต่เด็ก ๆ อาจต้องการ “เวลา” หรือมีคนเล่นด้วย

การรู้จักและเข้าใจภาษารักของลูก ๆ จะช่วยให้พ่อแม่เติมถังรักในหัวใจของลูกสาวและลูกชายให้เต็ม และสร้างเกราะปกป้องหัวใจของลูกสาว ลูกชาย ให้ห่างไกลจากการแสวงหาความรักที่อยู่บนพื้นฐานของเซ็กซ์ ความรักจอมปลอมแบบผิดที่ผิดทาง นอกจากนี้แล้วพลังความรักและภาษารักยังมีผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม และอัตลักษณ์ พูดง่าย ๆ นั่นคือรากฐานมั่นคงในอนาคตของเด็ก ๆ นั่นเอง

เรียกว่ามันคุ้มค่ามากเลยที่จะลงทุนเรียนภาษารักกัน

ทักษะภาษา (รัก) เติมถังรักให้เต็มถัง

 ภาษารัก 1 : คำพูดที่เสริมสร้างความสัมพันธ์

คำพูดมีความหมายและสำคัญ ทำให้รู้สึกว่าเป็นที่รัก ลดความเครียด ทำให้รู้สึกปลอดภัย

แสดงความรักด้วยคำพูดนุ่มนวลอ่อนโยน คำพูดให้กำลังใจ คำชม คำขอบคุณ จะช่วยส่งเสริมให้มีพลัง และเกิดความกล้า บางทีคำพูดให้กำลังใจก็มากพอที่จะปลดปล่อยศักยภาพของใครบางคนให้ ลุกขึ้นมากล้าทำสิ่งใหม่ ๆ หรือก้าวไปข้างหน้าก็ได้นะ

ลองเปลี่ยนจากคำบ่นที่สร้างบรรยากาศน่าเบื่อ ท้อใจ และทำลายความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมมาเป็น คำชมเชย สร้างแรงจูงใจได้ดีกว่าคำบ่นหลายเท่าเลยล่ะ

วิธีฝึกภาษารัก:

  •  พูดให้กำลังใจก่อนที่จะทำอะไรสำเร็จ
  • เวลาที่ทำผิด อย่าติ ให้พูดชมว่าตั้งใจดี พยายามดีแล้ว
  • สังเกตข้อดีของอีกฝ่าย และจดไว้ แล้วพูดหรือเขียนชมเชย แสดงคำขอบคุณ ชื่นชม และให้กำลังใจ
  • บอกรักบ่อยๆ เขียนจดหมายรัก ส่งข้อความ การ์ด
  • เรียกชื่อน่ารักๆ ลูกหมี Babe แสนดี หมูน้อย
  • หลีกเหลี่ยง คำบ่น ตำหนิ วิจารณ์ ล้อเลียนด้วยคำพูด
  • ข้อสำคัญ เวลาพูด มองหน้า สบสายตา พูดจากหัวใจ

 ภาษารัก 2 : ให้เวลาอย่างมีคุณค่า

เวลา = รัก

อย่ามัวแต่ทำงานเพื่อซื้อของแพง ๆ ให้ หากอีกฝ่ายต้องการ เวลา จากคุณ

แสดงความรักด้วยการใช้เวลาโดยไม่มีอะไรมาขัดจังหวะ หลีกเลี่ยง เล่นมือถือ ดูทีวี หรือทำงานไปคุยไปด้วย บางครั้งก็ไม่ได้ต้องการคำแนะนำอะไร เพียงแต่ต้องการคนรับฟัง และเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย อย่าขัดจังหวะ สบสายตาขณะพูดคุย แสดงความสนใจ

วิธีฝึกภาษารัก:

  • เดินเล่น กินไอติม ปั่นจักรยาน
  • ทำการบ้าน ทำสวน เล่นกีฬาด้วยกัน
  • ใช้เวลานั่งบนโซฟา พูดคุยกัน
  • นั่งดื่มกาแฟ ทานข้าว พูดคุยรับฟังกัน และแบ่งปันเรื่องราวด้วยกัน
  • อย่าให้ความสนใจเพื่อนบนโลกโซเชี่ยลจนลืมคนข้าง ๆ

 ภาษารัก 3 : ให้ของขวัญ

ของขวัญ เป็นเครื่องหมายแสดงความรัก

ของที่รู้ใจ ไม่ต้องแพง แต่เป็นของที่มีคุณค่าทางใจที่แสดงว่าคุณรัก คิดถึง ห่วงใย สนใจ

วิธีฝึกภาษารัก:

  • ให้ของขวัญวันสำคัญ ให้บ่อย ๆ
  • แต่งเพลงให้ ของขวัญแฮนด์เมดจากใจ
  • ห้ามลืม วันเกิด วันครบรอบ
  • ทุกครั้งที่ให้ของขวัญ อย่าลืมมองหน้าสบตา แล้วบอกรักจากใจว่า รัก …. นะ เลยซื้อ… มาฝาก

ภาษารัก 4 : ทำบางสิ่งบางอย่างให้

การกระทำที่แสดงว่ารัก ห่วงใย “มีอะไรให้ช่วยมั้ย”

การแบ่งเบาภาระงานบ้าน การให้ความช่วยเหลือ เป็นสิ่งสำคัญ สังเกตว่าอีกฝ่ายมักจะบ่นอะไร อาจเป็นการบอกเป็นนัยให้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องการ หรือช่วยทำงานที่อีกฝ่ายไม่ถนัด หรือ ไม่ชอบทำ  

วิธีฝึกภาษารัก:

  • ถือของให้ เดินไปส่งที่บ้าน ป้ายรถเมล์
  • ช่วยทำการบ้าน ทำรายงาน งานฝีมือ
  • ล้างจาน ถูบ้าน รีดเสื้อ เอารถไปล้าง เติมน้ำมันให้
  • โหลดเพลงให้ จ่ายบิลให้
  • นวด สปา หลังจากเหนื่อยจากงาน
  • ถามอีกฝ่ายว่าอยากให้ช่วยทำอะไร 5 อย่าง


ภาษารัก 5 : สัมผัสทางกาย

เด็ก ๆ และผู้สูงอายุ ที่ได้รับการสัมผัส จะอารมณ์ดี มีสุขภาพดี

สัมผัสอย่างบริสุทธิ์ จริงใจ ไม่สื่อถึงเรื่องทางเพศ แต่แสดงออกถึงความรัก พลังของการสัมผัสจากพ่อและแม่จะเติมเต็มถังรักในหัวใจของลูก ๆ และปกป้องพวกเขาจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย

วิธีฝึกภาษารัก:

  • นั่งใกล้ๆ โอบบ่า เดินจูงมือ
  • นอนหนุนตัก ลูบผมด้วยความรัก เอ็นดู
  • กอด ลูบหลัง หอมแก้ม
  • นวดคอ บ่า ไหล่ เท้า
  • หลีกเลี่ยง การทำร้ายร่างกาย เช่น หยิก ตี

วิธีรู้จักภาษารักของตัวคุณและคนรอบข้าง

อธิบายภาษารักทั้งห้าให้คนใกล้ชิดฟัง แล้วถามดูว่าภาษารักของเค้าคืออะไร และภาษารักของคุณคืออะไร แต่ละคนอาจมีภาษารักได้มากกว่าหนึ่งภาษา ฝึกใช้ภาษารักจนคล่อง แล้วคุณจะดีใจว่าภาษารักช่วยชีวิตคุณไว้เหมือนฉัน

ด้วยรักและห่วงใย

จอย

จากหนังสือ ภาษารัก แกรี่ แชปแมน

Leave a comment