Body, Soul, and Spirit
ฉันมีอาการเครียดจากการทำงานมานานหลายปี จนปี 2543 ฉันถูกวินิจฉัยว่ามีอาการแพนิค ที่มาจากวิตกกังวลและซึมเศร้า พอทานยาก็อาการดีขึ้นมาก ต่อมาในปี 2552 ฉันเสียสามีกระทันหันจนเศร้าโศก สิ้นหวัง ตอนนั้นยาก็ไม่ช่วยอะไร วันหนึ่งฉันท่องอินเทอร์เน็ตและพบคำอธิษฐานสำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้า ฉันอธิษฐานสุดหัวใจจากใจที่สิ้นหวัง ท้อแท้ เช้าวันรุ่งขึ้นอาการฉันดีอย่างอัศจรรย์และเริ่มมีประสบการณ์รู้จักพระเจ้ามากขึ้น จากที่สิ้นหวัง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ก็ลุกขึ้นมาก้าวเดินต่อไปได้ เรียกว่าพระคุณ ความรักของพระเจ้าให้ชีวิตใหม่กับฉันจริง ๆ เป็นครั้งแรกที่ฉันมีสันติสุขในใจที่โลกนี้ให้ไม่ได้ อาการต่าง ๆ หายไป มีความสุข ยิ้มได้ นอนหลับ รวมทั้งความเศร้าโศกจากการสูญเสียก็ได้รับการปลอบใจ
ผ่านไปนานหลายปี จนวันหนึ่งใน ช่วงปลายปี 2561อยู่ ๆ ฉันกลับมีอาการแพนิคอีก รีบวิ่งไปหาหมอด้วยความกลัวและตกใจ แพนิคครั้งนี้มีประสบการณ์แล้ว หลังจากครั้งแรกถูกวินิจฉัยผิดว่าเป็นโรควูบ หาหมอหัวใจ คราวนี้คุณหมอส่งฉันไปหาหมอหูคอจมูก แต่ทานยาแล้วไม่ดีขึ้น ฉันจึงพาตัวเองไปพบคุณหมอจิตแพทย์ คุณหมอผู้น่ารักของฉันเป็นคริสเตียนด้วยเลยคุยกันได้ทุกเรื่อง
วันหนึ่งระหว่างไปหาหมอที่โรงพยาบาล ฉันรู้สึกน้อยใจ และสงสัยว่าทำไมพระเจ้าไม่รักษาฉันแบบครั้งแรก แล้วทำไมฉันกลับมาเป็นอีกในขณะที่คิดแบบนั้นอยู่ในใจ ฉันได้ยินพ่อพูดกับฉันว่า ฉันแสวงหา healing หรือ การรักษา แต่พ่ออยากให้ฉันรู้จัก nurturing หรือ การเลี้ยงดู ทะนุถนอมจิตใจ เพื่อที่จะได้ไม่กลับมาเป็นอีก จากวันนั้นเส้นทางการเยียวยา ฟื้นฟูของฉันค่อย ๆ เริ่มต้น
เข้าใจโรค เข้าใจการรักษาแบบองค์รวมของพระเจ้า
วันหนึ่งพระเจ้าพูดกับฉันว่า Depression หรือ ซึมเศร้านั้นมาจาก Suppression หรือเก็บกดอารมณ์ไว้ เช่น เศร้า เสียใจ ผิดหวัง พอเก็บกดไว้นาน ๆ มันก็จะซึมลึกกลายเป็นซึมเศร้า ส่วนความเครียด วิตกกังวลก็เช่นกัน เมื่อไม่ได้รับการจัดการก็จะระเบิดออกมาเป็นอาการต่าง ๆ ตามร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง และกลายเป็นโรควิตกกังวล ส่วนอารมณ์หงุดหงิด โกรธ ที่เก็บสะสมไว้ก็จะกลายเป็นลูกระเบิดอารมณ์
“Depression is an ache in the soul that crushes the spirit.”
ซึมเศร้า เป็นความเจ็บปวดในจิตวิญญาณ
ที่ทำลายจิตใจ (spirit) ของเราจนท้อแท้ หมดหวัง
Neil T. Anderson
ใจยินดีทำให้ใบหน้าเบิกบาน
แต่ความเสียใจทำให้จิตซึมเศร้า
สุภาษิต 15:13
พระเจ้าสร้างเรามา 3 ส่วน คือ ร่างกาย (body) จิตใจหรือจิตวิญญาณ (soul) และ สปิริตหรือพลังใจ (spirit)
ปัญหาสุขภาพจิต (ใจ) นั้นเป็นเพียงอาการหรือสัญญานบอกให้รู้ว่าเรามีปัญหา และพระเจ้าอยากจะรักษา เยียวยา ฟื้นฟู และดูแลให้ครบทั้ง 3 ส่วน ซึ่งการดูแลแต่ละส่วนก็ต่างกัน
1. ร่างกาย: วิธีดูแล
- พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทานยา
ในกรณีของปัญหาสุขภาพจิตใจ ในส่วนร่างกายคือ สมองนั้นมีการทำงานของสารเคมีที่ผิดปกติจึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการทานยาและตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์เฉพาะทาง
- ทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ
- การออกกำลังกาย ฝึกหายใจ
- การพักผ่อน กิจกรรมบันเทิงใจ เช่น เดินเล่น ศิลปะบำบัด
* ส่วนนี้เราต้องดูแลตัวเอง ข้อสำคัญคือการพักผ่อน ถ้าฉันยุ่ง เครียดเมื่อไร จะ หงุดหงิด อารมณ์เสียเพราะเหนื่อยนั่นเอง
* พ่อคนนี้รักลูก และอยากให้ลูกมีเวลาพักสบาย ๆ
2. จิตวิญญาณ (Soul): วิธีดูแล
จิตวิญญาณเป็นตัวต่อสำคัญที่หายไปในการรักษาสุขภาพจิต (ใจ) การทานยาเป็นสิ่งดีและจำเป็น แต่เป็นการรักษาเฉพาะร่างกายคือ สารเคมีในสมอง พระเจ้าต้องการเยียวยา เลี้ยงดูจิตวิญญาณของฉัน และสอนให้ฉันรู้จักดูแล ทะนุถนอมจิตใจของฉันเองด้วย
“ท่านที่รัก ข้าพเจ้าอธิษฐานขอให้ท่านมีพลานามัยสมบูรณ์ และเจริญสุขทุกประการ
อย่างจิตวิญญาณของท่านจำเริญอยู่นั้น” – 3 ยอห์น 1:2
จิตวิญญาณ (Soul) คืออะไร
จิตวิญญาณของเราเป็นส่วนของบุคลิกภาพ หรือ ตัวตนภายในของเรา ซึ่งมี 3 ส่วนหลัก ๆ คือ จิตใจ (mind) อารมณ์ หรือ ความรู้สึก (emotions) และ การตัดสินใจ หรือความสามารถในการเลือก (will)
ความเชื่อ ทัศนคติในใจ ความรู้สึก อารมณ์ ความทรงจำจากประสบการณ์ชีวิตของเราจะถูกเก็บไว้ในจิตวิญญาณ หรือจิตใจของเรานั่นเอง ดังนั้นปัญหาสุขภาพจิต (ใจ) นั้นต้องดูแลที่สุขภาพหัวใจ หรือ อารมณ์ของเราด้วย
แล้วเราจะดูแลจิตวิญญาณอย่างไร
หัวใจเราถูกออกแบบมาให้มีความต้องการ นั่นคือ ความต้องการทางอารมณ์ (Emotional Need และ Emotional Support) เช่น ต้องการความรัก การยอมรับ คำชม การปลอบใจ ต้องการการเลี้ยงดู ทะนุ ถนอม เอาใจใส่ แบบใกล้ชิดสนิทสนม ต้องการเพื่อน ต้องการความปลอดภัย
พักนิ่งกับพระเจ้า เปิดหัวใจให้พระเจ้าสัมผัส
ในช่วงการฟื้นฟูจิตใจฉัน พระเจ้าสอนให้ฉันลดกิจกรรมหลายอย่าง แต่เน้นการดูแลเอาใจใส่หัวใจ แม้แต่การใช้เวลากับพระเจ้า ก็จะเป็นการพักนิ่ง ในพระเจ้า แทนการอธิษฐานยาว ๆ หรือ อ่านพระคำ และเปลี่ยรเป็นการพูดคุย บทสนทนาประสาพ่อลูก ถามไถ่ ความรู้สึก กันมากขึ้น ง่าย ๆ คือฉันเริ่มมีความสัมพันธ์แบบใจต่อใจกับพ่อ สัมผัสถึงความรัก ความห่วงใย ใกล้ชิด การอยู่ด้วย ได้ยินเสียง พูดคุยความรู้สึกลึก ๆในใจได้กับพระเจ้า แทนความสัมพันธ์แบบความรู้ในสมอง หรือ ความสัมพันธ์แบบรู้จักแต่ไม่รู้ใจ
สดุดี 23: 1-3 บรรยายภาพที่ที่พระเจ้าฟื้นฟูจิตใจเราให้สดชื่น
“พระเจ้าอยากเลี้ยงดูจิตวิญญาณของเรา อยากให้ทุกอย่างที่หัวใจเราต้องการ
ไม่ให้ขาด ความรัก
พระเจ้าอยากเติมถังรักในหัวใจของคุณ ให้เต็มอิ่ม
พระเจ้าอยากให้คุณมีเวลานอนพัก นั่งเล่น ในทุ่งหญ้าเขียวขจี
พาคุณไปนอนพักนิ่ง ๆ ริมน้ำ ที่เงียบสงบ เย็นสบายใจ”
เปิดหัวใจให้พระเจ้าเข้ามาเยียวยาหัวใจของเรา
กล้าที่จะเปิดหัวใจ ให้พระเจ้าเข้ามาเยียวยา จัดการกับอารมณ์ ความรู้สึก ความคิดของคุณ
รักและดูแลทะนุถนอมจิตใจตัวเอง
การเข้าใจจิตใจ บุคลิก ตัวตนของตัวเอง อย่างที่พระเจ้าสร้างเรามา รวมทั้งการมอง และคิดเกี่ยวกับตัวเองด้วยสายตาแห่งความรักของพ่อคนนี้เป็นยาวิเศษที่เยียวยาหัวใจฉันที่ไม่มียาอื่น ๆ ทำได้
กุญแจแรกที่พระเจ้าสอนฉันคือการรักและยอมรับตัวเองอย่างที่ฉันเป็น
รู้จักบุคลิก นิสัย อารมณ์ ของตัวเอง และวิธีดูแลจิตใจที่เหมาะกับตัวฉันเอง สถานการณ์ชีวิตของฉัน
พักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติ สวยงามที่พระองค์สร้างให้เรา
มีเพื่อนสนิทที่ใช้เวลาด้วยกัน หรือกลุ่มเพื่อนที่สามารถไว้ใจพูดคุยเรื่องลึก ๆในหัวใจ และปลอบใจกันได้
3. สปิริต หรือ พลังใจ (วิธีดูแล)
เป็นส่วนที่อยู่ลึกลงไปภายในใจของเราที่นำความหมาย และเป้าหมายในชีวิตให้กับเรา และเป็นส่วนของหัวใจที่เป็นความรัก ที่ทำให้เรารักตนเอง และผู้อื่น เรียกว่าเป็นส่วนลึกของมนุษย์ในระดับจิตใจที่เป็นกำลังใจ พลังใจ หรือ พลังจิตของเรานั่นเอง
“พลังจิตของมนุษย์ช่วยให้ทนความเจ็บป่วย
แต่ใครเล่าจะปลุกจิตที่ท้อแท้ได้”
สุภาษิต 18: 14
การใช้เวลากับพระเจ้าและมีความสัมพันธ์ระดับลึกในใจแบบพ่อกับลูก อมีประสบการณ์ได้รับความรัก จากหัวใจพระบิดาที่เทลงสัมผัสหัวใจของเรา เหมือนปลูกเสาเข็มลึกลงไปในจิต (spirit) ของเราจนมั่นคง
พระเจ้าสร้างเรามาอย่างอัศจรรย์ทั้งสามส่วนจริง ๆ ในการเยียวยาปัญหาสุขภาพจิตใจของฉันนั้น ฉันจะแบ่งปันประสบการณ์เรื่องการเยียวยาจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก นึกคิด ซึ่งขอเรียกง่าย ๆ ว่าเยียวยาหัวใจ
“ดูแลเอาใจใส่รักษาหัวใจไว้ให้ดี
เพราะบ่อเกิดของชีวิตอยู่ที่หัวใจ”
สุภาษิต 4: 23
ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาจิตใจอะไรอยู่ พระเจ้าจะจูงมือคุณและเดินฝ่าหุบเขาแห่งความมืดมิดเดียวดายในหัวใจของคุณ และฟื้นฟูหัวใจและหัวสมองคุณ เหมือนที่พระองค์เยียวยาฟื้นฟูฉัน
ด้วยรักและห่วงใย
จาก (ใจ) จอย