ทำไมคุยกันทีไร โมโห ทะเลาะกันทุกที บางทีความโกรธนั้นอาจไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริง แต่มีสาเหตุจากความรู้สึกอื่นในใจจากอดีต

ความโกรธประเภทที่สอง เป็นความโกรธที่มีเบื้องหลังจากความรู้สึกอื่นในใจจากอดีต ภายใต้ความโกรธที่แสดงออกมา อาจจะเป็นความอาย เหงา เศร้า เสียใจ กลัว ความไม่เข้าใจกัน รู้สึกถูกดูถูก ทำให้รู้สึกแย่ หรือ ?

ค้นหาความเจ็บปวด เสียใจ ภายใต้ ความโกรธ ของคุณ

ความโกรธที่เห็นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ออกมาให้เห็น ใต้ภูเขาน้ำแข็งเต็มไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้แสดงออกมา

วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าความโกรธของคุณถูกกระตุ้นหรือไม่ ก็คือถ้าปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณมันเวอร์เกินปกติ เพราะเรื่องนิดเดียว เป็นไปได้ว่ามีอะไรที่มากกว่านั้นภายใต้ความโกรธ  ตรงกันข้ามหากคุณพูดหรือทำอะไรแล้วจู่ ๆ อีกฝ่ายโมโหผิดปกติ อย่าเพิ่งรู้สึกผิด เพราะคุณไม่ใช่ปัญหา แต่ คุณเป็นตัวกระตุ้นเท่านั้นเอง

ความจริงเกี่ยวกับ ความโกรธ

• ส่วนใหญ่แล้ว ความโกรธมักจะถูกกระตุ้นจากความเสียใจ ในอดีต
• คนที่มีสัมภาระอารมณ์ลากติดตัวไว้ด้วย มักจะถูกกระตุ้นได้ง่าย
• ความโกรธที่เก็บไว้อาจทำลายสุขภาพ และความสัมพันธ์ได้
• หลายครั้งความโกรธ มาจาก จากความเสียใจ ผิดหวังในชีวิตที่คนอื่นทำกับคุณหรือพูดกับคุณ หรือไม่ได้ทำ หรือ ไม่ได้พูดกับคุณ

อธิษฐานกับพระเจ้าให้รักษา เยียวยา ความโกรธของคุณ จากสาเหตุที่แท้จริง ขอพระเจ้าเปิดเผยให้คุณรู้ว่า

• มีเหตุการณ์ใดบ้างที่ทำให้คุณโกรธ โมโห เสียใจ
• มีใครบ้างที่คุณโกรธ (ใส่ชื่อตัวเองก็ได้นะ)
• มีคำโกหกใดที่คุณเชื่อจากเหตุการณ์หหรือคำพูดในอดีตที่ทำให้คุณรู้สึกโมโห
• พระเจ้าอยากจะพูดความจริงอะไรกับคุณเพื่อทำลายคำโกหกที่คุณหลงเชื่อ
• มีใครบ้างที่คุณต้องให้อภัย รวมทั้งตัวคุณเอง
• ปลดปล่อยความเสียใจ และความโกรธ โดยการรับรู้ความรู้สึกของคุณเอง อนุญาตให้ตัวเองรับรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร กับสิ่งที่เกิดขึ้น เขียนระบาย อาจฟังเพลงที่อธิบายความรู้สึกของคุณได้ดี และเขียนลง
• รู้สึกเสียใจ โมโห ที่ไม่ได้รับการดูแล ใส่ใจ ปกป้อง แต่กลับทำร้าย ทอดทิ้ง  
• ใช่ฉันเสียใจ ที่ …. เพราะฉันต้องการ
• ไม่ผิดอะไรที่จะรู้สึกหงุดหงิด โกรธ เสียใจกับ
• ให้อภัยคนอื่น ที่ทำให้เราเสียใจ
• ให้อภัยตัวเอง บ่อยครั้งเราโทษตัวเอง ไม่ให้อภัยตัวเองกับความผิดพลาด เช่น ฉันมันใจง่ายเอง ฉันมันโง่เอง วันนี้ให้อภัยตัวเองเถอะนะ
• ปลดปล่อยความรู้สึกเสียใจ น้อยใจ ขมขื่นใจ หรือ โกรธให้กับพระจินตนาการว่าพระเจ้าอยู่ตรงหน้าคุณ ระบายความรู้สึกในใจ และปลดปล่อยออกให้พระองค์ คุณไม่ต้องการเก็บมันไว้ในใจ ในร่างกาย หรือ ในความคิด
• เปิดหัวใจให้พระเจ้าเข้ามาเยียวยา ปลอบใจคุณกับความเสียใจที่อยู่ภายใต้ความโกรธนั้น
• ใช้เวลาให้พระเจ้าปลอบใจคุณ พูดกับคุณ สัมผัสคุณ และเติมหัวใจให้เต็ม

เมื่อพระเจ้าเยียวยาความโกรธของฉัน 

เริ่มแรกเลย ฉันมักจะมีปัญหากับแม่และน้องชายเป็นประจำ น้องก็จะบอกว่าไม่รู้ทำไมแม่กับฉันชอบมีปัญหา ปากเสียงกัน และฉันก็มักจะมีปัญหากับน้องชายเป็นประจำ ประเภทความเห็นไม่ลงรอยกัน หรือ บุคลิกไม่ตรงกัน ฉันก็ไม่ชอบหรอกนะ เพราะมันบั่นทอนสุขภาพจิตของฉัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

จนวันหนึ่งพอฉันเข้าใกล้แม่ทีไร ฉันรู้สึกได้ถึงความโกรธในใจ ก็พยายามอยู่ห่างแม่จะได้ไม่พูดหรือทำอะไรที่ไม่ดีออกไป พยายามค้นหาจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง แต่ก็ยังมี พระเจ้าให้เพื่อนฉันเห็นภาพควันพุ่งออกจากตัวฉัน ทำให้นึกถึงชื่อเล่นที่สามีตั้งให้ฉันว่าเป็นหม้ออัดความดันสูง ควันเลยพุ่งเหมือนหม้อน้ำหน้ารถ เลยตัดสินใจคุยกับเพื่อน ตอนแรกก็เริ่มจากสถานการณ์ปัจจุบัน เกิดอะไรขึ้น เหมือนระบายอารมณ์ในใจ พอสักพักหนึ่ง เพื่อนถามว่ามีเหตุการณ์ไหนในอดีตมั้ยที่เคยรู้สึกแบบนี้ ฉันนึกถึงเหตุการณ์เสียสามีเมื่อสิบปีก่อน ซึ่งไม่เคยเล่าให้ใครฟังรายละเอียด พอเล่าให้ฟัง เพื่อนคนนั้นถามว่า ฟังแล้วรู้สึกได้ว่าเธอ “ โกรธ” จำได้ว่าฉันหยุดพูดแล้วมองหน้าเธอ พร้อมกับนึกในใจ รู้ได้งัยเนี่ย ที่จริงฉันลืมไปแล้วเพราะหลังจากนั้นมีแต่ความรู้สึก เศร้า เสียใจ ฉันบอกเพื่อนว่า ใช่ โกรธ ตอนนั้นโกรธหมอ โกรธโรงพยาบาล โกรธตัวเอง โกรธหลายคนเลย จากนั้นเธอถามฉันว่า แล้วมีโกรธคนในครอบครัวหรือไม่

ฉันนิ่งไป บอกว่าไม่มีนะ ครอบครัวก็เข้าใจและรักฉันดี เมื่อฉันหัวใจแตกสลายกลับบ้าน แต่สักพักหนึ่งฉันก็นึกถึงคำพูดของแม่ ตอนที่ฉันบอกว่าจะแต่งงานกับแฟนคนอินเดีย แล้วจะกลับมาอยู่เมืองไทย แม่พูดทำนอง ว่า แม่อายญาติ ๆ ไม่อยากให้เค้ารู้ ตอนนั้นจำได้ว่าฉันคิดว่าฉันไม่แคร์หรอก แต่ลึกลงไปคือความเสียใจ เวลาที่เราต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต แต่แม่กลับไม่เห็นด้วย ไม่สนับสนุน ไม่ได้ยินดี ดีใจ ไปกับเรา มันทำให้เราเสียใจนะ นั่นแหละคือความรู้สึกที่แท้จริงของฉัน แต่เพราะว่าฉันไม่ได้เชื่อมต่อกับความรู้สึกที่แท้จริงมากนักจนไม่ใส่ใจ และปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ตอนหลังฉันติดสินใจย้ายไปอยู่เชียงใหม่เพราะคำนี้แหละ และนั่นคือรากลึก ๆ ที่ทำให้ฉันมักจะมีปัญหากับแม่ ภายใต้ความโกรธ ขัดใจกัน คือความเสียใจที่เก็บไว้จนกลายเป้นโกรธ เหมือนแผลสด ที่กลายเป็นแผลบวม แดง มีหนองเน่า ๆ ปูดออกมาเป็นอารมณ์เสียใส่กัน

จากนั้นฉันก็นึกถึงคำพูดหนึ่งของน้องชาย ช่วงที่ฉันเสียสามี เศร้า สิ้นหวัง ไม่สนใจตัวเอง อ้วน ไม่แต่งตัว แล้วเค้าพูดอะไรบางอย่างเหมือนว่าฉันทำไมปล่อยเนื้อปล่อยตัวอย่างนี้ ทำไมอ้วนจัง คำพูดแบบนี้คงไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอะไรมากนัก แต่ว่าในสภาพเช่นนั้นมันทำให้ฉันเสียใจ เสียใจอะไรเหรอ เสียใจว่าเค้าไม่ได้เข้าใจเราเลยว่ากำลังเจออะไรอยู่ ในสภาพนั้นที่ฉันไม่อยากจะมีชีวิตต่อ ฉันไม่ได้สนใจหรอว่าฉันน้ำหนักเป็นอย่างไร ไม่เห็นเหรอว่าฉันเศร้าเสียใจอย่างไร

วันนั้นเปิดตาให้ฉันเห็นสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาความสัมพันธ์

ฉันร้องไห้อีกครั้ง และรับรู้ความรู้สึกในตอนนั้นที่หัวใจฉันยังจำได้เพราะยังไม่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่แท้จริง ฉันยอมรับ เข้าใจ และปลดปล่อยความรู้สึกเสียใจออกไปด้วยน้ำตา วันนั้นพระเจ้าเยียวยาความโกรธทั้งหมดที่สะสมในใจฉันมานานหลายปี รวมทั้งความโกรธความเสียใจช่วงเสียสามีที่เก็บไว้นานกว่า 10 ปี

หลังจากวันนั้น น่าแปลกที่ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับ แม่ และน้องชายดีขึ้น เหมือนเรื่องคาใจหมดไปแล้ว ไม่มีอะไรมากระตุ้นให้ฉันโกรธ หงุดหงิด (เกินเหตุ) ได้

สิ่งหนึ่งที่ฉันเรียนรู้คือพระเจ้าอยากปลดปล่อยเราจากรากลึก ๆ และถ้าความโกรธมาจากความเสียใจ พระเจ้าอยากจะปลอบใจเรา หัวใจที่ได้รับการเยียวยา ปลอบใจจนหายเสียใจจะนำมาซึ่งหัวใจที่ให้อภัย ไม่ใช่แค่จากปาก

กุญแจสำคัญอยู่ที่ปลดปล่อยความเสียใจให้พระเจ้า เปิดหัวใจรับการปลอบประโลมใจจากพระเจ้า

ขอพระเจ้าเยียวยาหัวใจและอารมณ์ของคุณ จากความเสียใจ ผิดหวัง หงุดหงิด และโกรธ

ด้วยรัก

จาก (ใจ) จอย