Rejection and Mental Health
จากการพูดคุยกับคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตใจ และจากประสบการณ์ส่วนตัว ฉันพบว่ารากลึก ๆ ของปัญหาสุขภาพจิตใจ ความเครียดทางอารมณ์ ความเศร้าโศก เสียใจ โกรธ ฉุนเฉียว จนถึงซึมเศร้ามีรากมาจากการถูกปฏิเสธ
การถูกปฏิเสธ คือ ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ยอมรับ
เราถูกสร้างให้ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ ต้องการความรัก การยอมรับ และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพื่อน และสังคม
แต่ความสัมพันธ์มักจะเปราะบางเหมือนแก้ว มีกระทบกระทั่ง มีขัดแย้ง มีแตกหัก และส่งผลต่อบาดแผลในใจ สร้างรอยแผลเป็นแห่งความเจ็บปวด ทำให้รู้สึกไม่ดีพอ และ ไม่มีค่าพอ
บาดแผลจากการถูกปฏิเสธ เกิดขึ้นได้ทุกวัย
- ถูกปฏิเสธตั้งแต่อยู่ในท้อง เช่นพ่อแม่ท้องโดยไม่ตั้งใจ ไม่พร้อม เพศที่ต้องการ
- พ่อแม่มีปัญหาในชีวิตคู่ หย่าร้าง
- คำพูดลบจากพ่อแม่ หรือ บุคคลที่อยู่ในฐานะผู้ใหญ่ ครู อาจาร์ย
- รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอในสายตาพ่อแม่
- พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้านชอบวิจารณ์ ตำหนิ ตัดสิน บ่นว่า
- ครอบครัวยุ่งกับงาน ไม่มีเวลา
- ครอบครัวที่ไม่แสดงความรัก ไม่เคยบอกรัก โอบกอด ชม ให้กำลังใจ
- รู้สึกไม่มีใครรัก ลำเอียง แข่งขัน อิจฉาริษยา ในครอบครัว
- ถูกเพื่อนล้อเลียน แซว ตั้งฉายา หรือ บุลลี่
- อกหัก เสียเพื่อน ทะเลาะกับเพื่อน
- การถูกปฏิเสธจากการ ตกสัมภาษณ์ ตกงาน ไม่ผ่านโปร สอบไม่ผ่านชั้น ความผิดหวัง ผิดพลาด ล้มเหลวในชีวิต
ผลจากการถูกปฏิเสธ
บาดแผลจากความเสียใจ เจ็บปวดจากการถูกปฎิเสธที่ไม่ได้รับการเยียวยาก็จะกลายเป็นแผลหนอง กลายเป็นความขมขื่นใจ ไม่ให้อภัย แค้นใจ โกรธ เกลียดชัง จนกลายเป็นความรุนแรง ทำร้าย เฉือดเฉือน ฆ่ากันด้วยคำพูด ปะทะคารม มีปัญหาความสัมพันธ์ บั่นทอนจิตใจ
การถูกปฏิเสธมักจะ นำไปสู่ การปฏิเสธตัวเอง มีความคิดที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ทำให้คุณได้ยิน ฉันไม่ได้เรื่อง ไม่เก่งพอ ไม่ดีพอ ไม่มีความสามารถ ไม่สวยพอ ฉันโง่ ฉันอ้วน น่าเกลียด ขี้เหร่ ไม่มีใครมองหรือ สนใจฉันหรอก ฉันไม่สำคัญ ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครสนใจฟังความเห็นฉันหรอก
บาดแผลที่เจ็บปวดและถูกตอกย้ำจากประสบการณ์ในชีวิต เหมือนตะปูที่ตอกลึกลงไปในใจ กลายเป็นหัวใจแตกสลาย จดจำบันทึกไว้ในความทรงจำส่วนลึก ลึกลงไปในจิตวิญญาณของคุณ มีผลต่อจิตใต้สำนึก ความเชื่อ มุมมองที่คุณมองตัวเอง ผู้คน และโลกรอบตัวคุณ
แย่ที่สุด เราจะปฏิเสธ ตัวเอง ไม่ชอบตัวเอง กดดันตัวเอง ติตัวเอง จนถึงขั้นเกลียดตัวเองและทำร้ายตัวเอง
การต่อสู้กับความรู้สึกไม่ชอบตัวเอง จนถึงเกลียดตัวเอง ไม่เห็นคุณค่าตัวเอง และความรู้สึกผิด เป็นภัยระบาดที่ร้ายแรงยิ่งกว่าโควิด เพราะมันทำร้ายตัวคุณเอง
การถูกปฏิเสธกับความเหงา
ความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธนำไปสู่การกลัวถูกปฏิเสธ กลัวผิดพลาด กลัวเจ็บปวด กลัวล้มเหลว คุณจึงปกป้องตัวเองด้วยการปิดหัวใจ จนคุณไม่สามารถรับความรักได้
“การปฏิเสธตัวเอง จะสร้างกำแพงที่ขังตัวเองไว้ แล้วกันคนอื่นออกไป”
เฮนรี่ ดับบลิว. ไรท์
คุณจะรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวเดียวดาย
เพราะความรู้สึกเหงานั้น ไม่ใช่ไม่มีเพื่อน หรือ ไม่มีใคร
แต่ความเหงานั้น เป็นที่ที่รู้สึกว่า ไม่เชื่อมต่อกับคนอื่น
“เรารู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยว ไม่รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่ง
ไม่รู้สึกเชื่อมต่อกับผู้คนรอบ ๆ ตัว
เพราะเราเชื่อว่า ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีใครชอบเราอย่างที่เราเป็น”
เบรเน่ บราวน์
ฉันคนหนึ่งล่ะที่เชื่ออย่างนั้น
หัวใจที่ปิดนั้นเหมือนโทรศัพท์ที่ปิดสัญญาณเชื่อมต่อ โทรไม่ติด ต่อกับใครก็ไม่ติด อยู่กับคนมากมายก็ยังเหงา มีเพื่อนหรือคนรัก แต่กลัวความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม เพราะกลัวถูกปฏิเสธ กลัวถูกทอดทิ้ง คุณจึงปิดการเชื่อมต่อกับหัวใจของตัวเองจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่มันเป็นที่ที่อ้างว้างเดียวดาย เหน็บหนาวมากที่สุด เพราะไม่มีใครหรืออะไรจะทะลวงกำแพงน้ำแข็งที่ล้อมรอบหัวใจคุณไว้ได้ หัวใจที่ปิดนั้น รับความรักไม่ได้ ให้ความรักคนอื่นก็ไม่ได้ หัวใจที่ปิดนั้น รู้สึกเฉยชา ไม่ยินร้าย ไม่ยินดี เหมือนสวมเลนส์แว่นสีชา นั่นคือโลกที่น่าเศร้า
เคยรู้สึกเช่นนี้บ้างมั้ย
เยียวยาบาดแผลจากการถูกปฏิเสธ ด้วยความรัก
ตรงข้ามกับการถูกปฏิเสธ คือ การเป็นที่รักและยอมรับ
เปิดหัวใจรับความรักจากพระเจ้า
ฉันเป็นเด็กคนหนึ่งที่โตมาด้วยความรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวเดียวดาย คิดว่าไม่มีใครเข้าใจ รักฉัน จากการที่ต้องจากพ่อแม่ ถูกส่งมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพในวัยเด็ก การถูกปฏิเสธในช่วงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ ที่ล้วนแต่ตอกย้ำความรู้สึกลึก ๆ ในใจว่าฉันไม่ดีพอ ไม่สวยพอ การถูกปฏิเสธทำให้ฉันปิดหัวใจและขังตัวเองไว้โดยไม่รู้ตัวตั้งแต่เด็ก มิน่าฉันรู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยวแม้จะอยู่กับผู้คนมากมาย แม้จะมีงานที่ดี มีตำแหน่ง มีความสำเร็จ แต่ก็ยังรู้สึกเหงา และว่างเปล่า
นั่นคือสัญญาณเตือน ของ ซึมเศร้า และอาการหมดไฟ ที่ฉันไม่รู้ตัว
ในวันที่คนรักจากไปแบบไม่หวนกลับ ฉันพูดว่า ทำไมถึงทิ้งฉันไป ไม่รักฉันแล้วหรือ การจากไปของผู้เป็นที่รัก หรือ คนในครอบครัว จะจากเป็นหรือจากตาย ทำให้รู้สึกว่าถูกปฏิเสธ ทอดทิ้งได้เช่นกัน
ในช่วงชีวิตที่แย่ที่สุดของฉัน ฉันพบความรักของพระเจ้าที่เข้ามาเยียวยา บาดแผลในหัวใจ รักษาปัญหาสุขภาพจิตใจในตอนนั้น คือ ซึมเศร้า สิ้นหวังจากการสูญเสียคนรักกระทันหัน และจากนั้นความรักของพระเจ้าหลอมละลาะกำแพงแข็ง สูง และหนาที่ฉันปกป้องตัวเอง และขังตัวเองไว้มานาน จากนั้นฉันสามารถเปิดหัวใจรับความรักจากพระเจ้าและคนรอบข้างได้ หัวใจที่ได้รับการเยียวยา ปลอบใจ ก็เหมือนเด็กที่หกล้มมีบาดแผล พอทำแผลเสร็จ แม่ปลอบใจ ก็ลืมเจ็บ วิ่งออกไปสนุกได้อีกครั้ง วันนี้หัวใจของฉันกลับมามีชีวิต อ่อนโยน รักและยอมรับตัวเองได้ เมื่อฉันรักและยอมรับตัวเอง รู้สึกดีกับตัวเอง ความคิด มุมมองที่มีต่อตัวเองดีขึ้น โลกภายในสดใส จิตใจได้รับการฟื้นฟูมีพลังที่จะเดินหน้าต่อไป
หากคุณรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธในชีวิตในรูปแบบใดก็ตามที่ฉันบรรยยายมา
เปิดหัวใจ ให้กับพระเจ้า ผู้เป็นความรักที่สมบูรณ์แบบ ความรักที่จะเยียวยาหัวใจที่แตกสลาย และทำลายกำแพงที่ขังคุณไว้
พระเจ้า ลูกเปิดหัวใจทุกพื้นที่ที่เจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธ ถูกทอดทิ้ง ขอพระองค์เปิดเผยให้ลูกรู้ว่ามีเหตุการณ์ใด คำพูดใด บุคคลใด ที่ทำร้ายจิตใจลูก และยังมีผลต่อจิตใจลูกในวันนี้
วันนี้ลูกรู้แล้วว่าความเจ็บปวด เสียใจ ผิดหวัง น้อยใจ ความโกรธแค้นใจ ความขมขื่นใจ การไม่ให้อภัย และความเกลียดชังที่เก็บไว้ในใจนั้นมีผลร้ายต่อสุขภาพจิตใจของลูก ลูกไม่ต้องการเก็บมันไว้ในใจหรือในร่างกายอีกต่อไป ลูกขอปลดปล่อยความเจ็บปวดนี้ให้กับพระองค์ (หากคุณอยากร้องไห้ อนุญาตให้ตัวเองร้องไห้ ระบายความในใจออกมา) ลูกขอรับการรักษาเยียวยาฟื้นฟูจิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก นึกคิด และการทำงานของสารเคมีในสมองให้กลับมาปกติ เต็มไปด้วยสันติสุขในใจ และความร่าเริงใจอีกครั้งหนึ่ง
พระเจ้าขอความรักของพระองค์สัมผัสหัวใจลูกและเยียวยาหัวใจที่แตกสลาย ความชอกช้ำใจ และหักโซ่ตรวนของการถูกปฏิเสธ และการทอดทิ้งที่ขังชีวิตลูกไว้
มีคำโกหกใดเกี่ยวกับตัวเองที่ลูกหลงเชื่อจากเหตุการณ์นั้น ทำลายคุณค่า ความมั่นใจ ภูมิใจในตัวเอง และการรักและยอมรับในตัวเอง
(เรามักจะหลงเชื่อคำโกหกจากคำพูดที่ทำร้ายเรา เช่น ไร้ค่า โง่ ไม่ได้เรื่อง ไม่ดี ไม่เก่ง ไม่มีใครรัก ไม่มีใครเข้าใจ)
มีความจริงอะไรเกี่ยวกับตัวลูกที่พระองค์อยากพูดให้ลูกฟัง
คุณเป็นที่รัก ยอมรับ มีคุณค่า สวย เก่งในสายตาของพระเจ้า คุณเป็นที่พอใจ และดีพอในสายตาพระองค์ ไม่มีอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับตัวคุณ ไม่ใช่ความผิดของคุณ พระองค์รักและยอมรับคุณตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และทุกช่วงวัย พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งคุณแต่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ
พระเจ้า หากลูกปิดหัวใจเพราะกลัวถูกปฏิเสธ วันนี้ลูกเปิดหัวใจอีกครั้งเพื่อรับความรักจากพระเจ้าผู้เป็นความรัก และเป็นแหล่งความรักที่หัวใจลูกต้องการ วันนี้ลูกเลือกที่จะเชื่อมต่อกับหัวใจตัวเองอีกครั้ง และกับผู้คนรอบข้าง
นั่งนิ่ง ๆ ให้พระเจ้าพูด ปลอบโยนสัมผัสหัวใจของเด็กคนนั้นที่เสียใจ โกรธ ผิดหวัง รู้สึกไร้ค่า
หากการถูกคนอื่นปฏิเสธทำให้คุณปฏิเสธตัวคุณ พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์รักและยอมรับลูก วันนี้ลูกจะไม่ปฏิเสธตัวเองอีกต่อไป ลูกจะไม่พูดหรือคิดติดลบเกี่ยวกับตัวเอง ลูกจะเลิกพยายามเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวลูกเอง ลูกจะไม่เกลียดตัวเอง ไม่เห็นคุณค่า ไม่พอใจกับร่างกาย รูปร่าง หน้าตา นิสัยใจคอ ชีวิตของลูกอีกต่อไป
วันนี้ลูกเชื่อว่าลูกมีคุณค่าในสายตาของพระองค์ ลูกเป็นที่รักและพอใจ ทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวลูกเป็นที่พอใจ ยอมรับ ในสายตาของพระองค์
ขอความรักของพระองค์เติมหัวใจลูกให้เต็มถังรัก เพื่อที่ลูกจะรักและยอมรับตัวเองอย่างที่พระองค์สร้างลูกมา เพื่อที่ลูกจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง มอง คิด และรู้สึกดีกับตัวเองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
วันที่ฉันกลับมารักและยอมรับตัวเอง เป็นจุดเปลี่ยนที่นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตฉัน พลังจากความรักและยอมรับตัวเองเป็นกุญแจสู่ความสุขและสุขภาพจิตใจที่ดี
ด้วยรัก
จากใจ จอย