EP 4: ปลดปล่อยความอับอายจากการตีตราของโรคทางใจ (STIGMA)

การตีตราของโรคทางใจ (Mental Health Stigma)

ถ้าคุณป่วยเป็นโรคทางใจ เช่น แพนิค วิตกกังวล ซึมเศร้า Bipolar แล้วไม่มีใครเข้าใจคุณ หรือเข้าใจผิด คิดว่าคุณคิดไปเอง มโนไปเอง แกล้งป่วย บ้าหรือเปล่า ประสาท นั่นแหละ ผลจากการตีตรา

ที่แย่ก็คือ คุณเองก็อาจคิดไปว่าเป็นความผิดปกติของคุณที่เป็นแบบนี้ ไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ รู้สึกอาย ไม่อยากให้ใครรู้ เพราะรู้แล้วก็เข้าใจผิด

ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะเข้าใจเรื่องนี้กัน

การตีตราทางสังคม เกิดจากความเข้าใจผิดหรือความไม่รู้ทำให้เกิดอคติและมุมมองผิด ๆ

บางคนพอแนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ รีบบอกว่า “ฉันไม่ได้บ้านะ”

การตีตราภายในใจตนเองทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอายขายหน้า (Shame) สร้างความทุกข์ ความเจ็บปวด รู้สึกไม่ดีกับตนเอง กล่าวโทษตนเอง เป็นอุปสรรคปละส่งผลกระทบต่อการฟื้นฟูจิตใจและการรักษา

บางคนไม่ยอมรับการรักษา ไม่อยากพบจิตแพทย์ ฉันเคยพาเพื่อนไปพบหมอจิตแพทย์ เค้าชอบคุณหมอตอนคุย แต่บอกหมอว่า “ถ้าเปลี่ยนชื่อได้ก็ดีนะ” ฉันฟังแล้วก็คิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ ที่น่าจะเปลี่ยนชื่อ Rebranding ทำการตลาดใหม่ Repositioning ใหม่น่าจะดี วันก่อนฉันเห็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่ีงใช้ชื่อว่าคลีนิกสุขใจ ฟังแล้วดีต่อใจกับคำว่าแผนกจิตเวช

คุณเคยคิดและรู้สึกแบบนี้บ้างไหม ข้อใดตรงกับคุณบ้าง

ตำหนิ โทษตัวเองว่า….

เป็นความผิดของคุณ

คุณมีอะไรผิดปกติ

รู้สึกอับอาย รู้สึกผิด

รู้สึกแย่กับตัวเอง

รู้สึกเป็นภาระของครอบครัว

รู้สึกไม่มีคุณค่า

ไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ โทษตัวเอง

แล้วเวลาที่คุณป่วยเป็นโรคอื่น ๆ ล่ะ คุณเคยรู้สึกแบบนี้มั้ย

ความรู้สึกนี้แย่มาก ๆ เป็นความเครียด ความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่คุณต้องเก็บไว้ ทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้าทางอารมณ์ ไม่มีแรง ไม่มีพลัง ไม่นับจากอาการเหนื่อย เพลีย หมดแรงที่เกิดจากแพนิค จริง ๆ และมุมมองผิด ๆ นี้เองที่ยิ่งทำให้คุณรู้สึกแย่ ท้อใจ หมดหวัง มากกว่าเดิม

ฉันเองก็เคยคิดเช่นนี้และรู้สึกเช่นนี้เหมือนกันโดยไม่รู้ตัว จนวันหนึ่งที่คุยกับคุณหมอจิตแพทย์ของฉันที่ฉันขอเรียกว่านางฟ้าใจดีของฉัน แล้วพบว่าการที่ฉันไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ ตำหนิตัวเอง รู้สึกแย่กับตัวเอง จนกลายเป็นแรงกดดัน สร้างความขัดแย้งในใจ ทุกข์ใจ พอจัดการความรู้สึกเหล่านี้ออกไป ฉันกลับดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

คนป่วยทุกคน ต้องการกำลังใจ ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจฉันใด คนป่วยทางใจก็ต้องการเช่นนั้น โดยเฉพาะจากตัวเอง และนั่นคือหัวใจหลักที่ทำให้ฉันดีขึ้น

มุมมองของคุณที่มีต่อโรคทางใจมีผลต่อความสามารถในการฟื้นฟู

มีผลต่อแรงจูงใจ และความสุขของคุณในระหว่างทางที่กำลังรักษา

อาจยังมีหลายคนที่ไม่เข้าใจโรคนี้จริง ๆ

แต่หากคุณเข้าใจโรคที่คุณเป็น จะช่วยให้การเยียวยาของคุณดีขึ้น

คุณพร้อมแล้วยังที่จะเข้าใจตัวเอง และภาวะที่คุณเป็น

ปลดปล่อยความรู้สึกอับอาย กล่าวโทษตนเองจากผลของการตีตราของโรคทางใจ

มาทำ EFT เคาะบำบัด ปลดปล่อยสิ่งความรู้สึกแย่ ๆ และความคิดติดลบจากผลของการตีตราที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเยียวยารักษาของคุณ พร้อมปรับมุมมองความคิดใหม่ จากจุดนี้ที่คุณรู้สึกปลอดภัย ยอมรับ ตัวเอง คุณกำลังเตรียมทางให้กับการเยียวยาฟื้นฟูของคุณ

EFT จุดเคาะต่าง ๆ โดยใช้นิ้วสองหรือสามนิ้วเคาะตามจุดต่าง ๆ พร้อมพูดตามสคริปต์

KC: ฝ่ามือด้านข้างนิ้วนาง

TOH: กลางศีรษะ

EB: หัวคิ้ว

SE: ขมับ ตรงหางตา

UE: ใต้ตา ตรงโหนกแก้ม

UN: ใต้จมูก ริมฝีปากบน

Ch: คาง

CB: ไหปลาร้า

UA: ใต้รักแร้ ลงมา 4 นิ้ว

คาะฝ่ามือด้านข้างนิ้วนาง พร้อมพูดตาม ออกเสียงจะดีมาก ปรับคำพูดให้ตรงกับคุณ

แม้ฉันจะรู้สึกแย่เกี่ยวกับการป่วยเป็นแพนิคของฉัน ฉันยอมรับตัวเอง

แม้ฉันจะรู้สึกอาย ไม่อยากบอกให้ใครรู้เกี่ยวกับแพนิคที่ฉันเป็น ฉันยอมรับความรู้สึกของฉัน

แม้ฉันจะรู้สึกไม่ชอบเลยที่ต้องเป็นแพนิค ฉันเปิดใจที่จะผ่อนคลายตัวเอง

หัวคิ้ว: ฉันไม่ชอบเลยที่ต้องมาป่วยเป็นแพนิค (ซึมเศร้า วิตกกังวล)

ขมับ: ฉันไม่อยากบอกให้ใครรู้

ใต้ตา: พอฉันบอก คนก็ไม่เข้าใจ

ใต้จมูก: บางคนก็ว่าฉันคิดไปเอง เรียกร้องความสนใจ แกล้งป่วย

คาง: ฉันรู้สึกแย่ เสียใจ และโดดเดี่ยว ต้องเก็บไว้คนเดียว

ไหปลาร้า: บางทีฉันก็รู้สึกว่าเป็นความผิดของฉันเองหรือป่าวนะ

รักแร้: แต่ความรู้สึกเหล่านี้ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแย่ ท้อใจ

ศีรษะ: บางที ฉันอาจปลดปล่อยความทุกข์ใจเหล่านี้ออกไปได้

เคาะที่หัวคิ้ว แล้วนึกถึงผลของการตีตราทางสังคมและการตีตราภายในใจตนเอง

บางทีคุณรู้สึกอับอาย ไม่อยากให้ใครรู้ ต้องเก็บไว้คนเดียว

บางทีพูดไปก็ไม่มีใครเข้าใจ มีปฏิกิริยาลบ

สังเกตว่าคุณรู้สึกถึงความรู้สึกน่าอับอาย ที่ส่วนใดของร่างกายคุณ

ขมับ: มันโอเคที่คุณอาจจะรู้สึกเช่นนี้ บางส่วนหรือทั้งหมด

ใต้ตา: ความรู้สึกนี้เป็นปกติสำหรับคนที่เป็นโรคทางใจ

ใต้จมูก: ปลดปล่อยความรู้สึกน่าอับอาย รู้สึกแย่กับตนเองออกไป

คาง: ฉันปลดปล่อยความน่าอับอาย ความทุกข์ใจ เสียใจ ออกไป

ไหปลาร้า: ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ทั้งร่างกายและจิตใจ

รักแร้: เมื่อฉันปลดปล่อยความน่าอับอายออกไป ฉันรู้สึกผ่อนคลาย

ศีรษะ: บางที ถ้าฉันไม่ละอายใจเกี่ยวกับการเป็นแพนิคของฉัน

จินตนาการดูว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร ในขณะนี้

เคาะที่หัวคิ้ว รอบนี้เราจะปลดปล่อยการตีตราภายในใจตัวเอง

คุณคิดอย่างไรกับตนเองที่ไม่สบายเป็นโรคนี้

บางทีคุณอาจจะกล่าวโทษตัวเองว่าเป็นความผิดของคุณ เพราะ… เลยทำให้คุณเป็นแบบนี้

ขมับ: ปลดปล่อยความรู้สึกผิด ตำหนิ ซ้ำเติมตัวเองออกไป

ใต้ตา: จินตนาการว่าคุณปลดปล่อยความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านี้ออกไปกับลมหายใจออกของคุณ เคลียร์ออกไป

ใต้จมูก: ฉันปลดปล่อยความขัดแย้งในใจออกไป

คาง: เมื่อคุณปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้น หนักใจ ทุกข์ใจนี้ออกไป

ไหปลาร้า: สังเกตดูว่าคุณรู้สึกเบาขึ้น มีเสรีภาพขึ้น

รักแร้: หายใจเข้า แล้วหายใจออก ฉันกำลังสนับสนุน ช่วยให้การเยียวยา ฟื้นฟูของฉันดีขึ้น

ศีรษะ: ในขณะที่คุณเคาะ สังเกตดูว่าคุณรู้สึกแข็งแรงขึ้นอย่างไรในร่างกาย และจิตใจของคุณ

หายใจเข้าออก

รอบต่อไปเราจะสร้างมุมมองและประสบการณ์ใหม่เกี่ยวกับการเป็นแพนิค หรือ โรคทางใจอื่น ๆ

ในขณะที่เคาะและฟังคำพูดต่อไปนี้ รู้สึกถึงคำพูดเหล่านี้ในร่างกายคุณ

หัวคิ้ว: ฉันไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายอยู่คนเดียวในการเป็นแพนิค

ขมับ: ฉันกล้าหาญมากที่ยอมรับการรักษา

ใต้ตา: ฉันต้องเจอกับอะไรมากมายเหลือเกินกว่าจะตรวจเจอ

ใต้จมูก: ฉันเก่งและเข้มแข็งมากกว่าที่ฉันคิด

คาง: ฉันพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติกับตัวเองด้วยความรัก ความเข้าใจ

ไหปลาร้า: จากจุดนี้ จะช่วยสนับสนุนให้การฟิ้นฟูเยียวยาจิตใจของฉันดีขึ้น

รักแร้: ฉันมาได้ไกลมากแล้ว

ศีรษะ: ฉันเลือกที่จะรู้สึกดีกับตัวเอง เห็นอกเห็นใจตัวเองในภาวะยากลำบาก ในยามที่ฉันป่วย

หายใจเข้าออก

คุณเก่งมากที่ใช้เวลาใส่ใจดูแลจิตใจของตัวเอง

ในขณะที่คุณเคาะ คุณช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติของคุณสงบลง ช่วยให้การฟื้นฟูจิตใจดีขึ้น

สามารถดูวิดีโอ แล้วเคาะตามที่ YouTube ได้เลย

เราจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน

ด้วยรักและห่วงใย

จากใจ – จอย

www.hearttalkwithjoy.com

@happyheartandbrain  

Leave a comment