Heart and Soul Journey with God

Lost in Wilderness หลงทาง แห้งแล้งในจิตวิญญาณ

เคยรู้สึกเช่นนี้มั้ย

คุณรู้สึกว่าคุณต้องการอะไรมากขึ้น

I want more of you, God!

คุณทำอะไรหลายอย่าง

แต่ก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรขาดหายไป

และคุณก็เดินวนเวียน เหมือนคนหลงทางในถิ่นธุรกันดาร

Lost in your Head หลงทางอยู่ในความคิด ความรู้ เหตุผล การแก้ปัญหา ความกังวล

ทางที่คุณหลงอยู่อาจจะเป็นแบบที่พระเยซูอธิบายไว้ในมัทธิวว่า Dull Heart หัวใจเฉื่อยชา ได้ยินแต่ไม่เข้าใจ เห็นแต่เหมือนไม่เห็น รู้มากในหัว แต่หัวใจกลับว่างเปล่า ไม่รู้สึกใกล้ชิด

รู้มากไปทำไม รู้ใจดีกว่า รู้อะไรก็ไม่เท่ารู้ใจ

ในหัวของคุณเต็มไปด้วยความรู้ และข้อมูล

คุณรู้จักพระเจ้า รู้จักพระคำ เพียงความรู้ในหัว ในระดับความคิด intellect

แต่ในหัวใจของคุณว่างเปล่า โหยหา

คล้ายอยู่ใกล้ แต่เหมือนอยู่ไกล รู้จักแต่ไม่รู้ใจ

เพราะไม่ได้เชื่อมต่อกันที่หัวใจ ที่จิตวิญญาณหรือ Soul

ความรักของพระเจ้ายังไม่ได้หยั่งรากลงไปในหัวใจของเรา ในจิตวิญญาณภายในของเรา ความรักของพระเจ้าไม่ได้รับการบ่มเพาะ เลี้ยงดูให้เติบโต เต็มล้นในหัวใจ คุณจึงไม่ซาบซึ้งเข้าใจในหัวใจถึงความรักของพระเจ้าที่เกินความรู้ในหัว

Photo by Rafael Ferreira on Pexels.com

หัวใจของคุณเปรียบเหมือนสวนแห่งอีเดน ที่ความรักของพระเจ้าจะหยั่งรากลึก เจริญเติบโต

หัวใจของคุณเป็น…

แหล่งของชีวิต

ที่ที่พระเจ้าจะสอนสติปัญญาหรือ wisdom

ที่ที่คุณได้ยินเสียงของพระเจ้า

ที่ที่คุณจะเห็นและเข้าใจ เมื่อตาใจของคุณเปิดออก

ที่ที่คุณจะซาบซึ้ง มีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้าซึ่งเกินความรู้ (ในหัว)

หัวสมอง ความคิดของคุณ เป็นสิ่งดีที่พระเจ้าสร้างและให้เรามา

แต่พระเจ้าต้องการให้คุณเชื่อมต่อ สัมพันธ์กับพระองค์แบบสุดจิต สุตใจ สุดความคิด

Live by Faith, not by Feelings

เราคิดว่าเราต้องเดินด้วยความเชื่อ ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึก

คุณเข้าใจว่าอารมณ์ความรู้สึกเป็นอุปสรรคต่อชีวิต ความสัมพันธ์ หน้าที่การงาน และการเดินกับพระเจ้า

เราจึงเดินด้วยความเชื่อ ด้วยความรู้ในหัว และตัดขาดจากหัวใจ อารมณ์ ความรู้สึก

ไม่สามารถมีประสบการณ์กับพระเจ้าในหัวใจ ผ่านความรู้สึก ไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกกับพระเจ้า

บางทีหัวใจคุณโหยหาที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง โหยหาที่จะให้คุณเชื่อมต่อสัญญาณชีพกับหัวใจ กับตัวคุณเอง กับพระเจ้า กับคนอื่น รวมทั้งกับโลกรอบตัว

การเลี้ยงดูในวัยเด็ก

บางทีคุณอาจจะเรียนรู้จากวัยเด็กว่าการแสดงความรู้สึกออกมานั้นไม่ปลอดภัย อาจจะถูกดุจนคุณไม่กล้าแสดงออกทางอารมณ์ตามความรู้สึกที่แท้จริง ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ได้แต่เงียบและเชื่อฟัง ทำตาม

หัวใจคุณจึงนิ่ง ไม่ค่อยรู้สึกอะไร ไม่สามารถสัมผัสความรู้สึกของตนเอง ผู้อื่น และของพระเจ้าได้

คุณไม่แน่ใจว่าจะ “รู้สึก” กับเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัวในชีวิตอย่างไร

หัวใจคุณเหมือนลงกลอนประตูไว้แน่น ปิดสวิตช์ใช้งาน เหมือนโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณติดต่อ รับการสื่อสารจากพระเจ้าไม่ได้

คุณปิดหัวใจเพื่อปกป้องตัวเอง

เกิดอะไรขึ้นในอดีตที่ทำให้คุณปิดหัวใจเพื่อที่จะได้รู้สึกปลอดภัย

คุณรู้สึกกลัวที่จะเปิดหัวใจอีกครั้งหนึ่ง กลัวที่จะเจ็บอีก กลัวที่จะผิดหวังอีก

กลัวผิดพลาด จนไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าลองอะไรใหม่ ๆ

ไม่กล้าที่จะเชื่อความต้องการของหัวใจ ไม่กล้าที่จะตามเสียงของหัวใจ

คุณรู้สึกไม่สบายใจเวลาที่คุณเศร้า เหงา หงุดหงิด ว้าวุ่นใจ กังวล

คุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คุณจึงปัดมันทิ้งไป หรือเก็บกดไว้ในใจ

Busyness คุณยุ่งวุ่นวายกับชีวิต กับงาน กับกิจกรรม ยุ่งกับเสียงรอบตัวจากสื่อ จากสังคม

ชีวิตที่วิ่งเร็วทำให้คุณไม่มีเวลารู้สึกกับอะไรรอบตัว ทุกอย่างวิ่งผ่านคุณไปอย่างรวดเร็ว

WITH ALL YOUR HEART สุดหัวใจ

WITH ALL YOUR SOUL สุดจิตวิญญาณ

WITH ALL YOUR MIND สุดความคิด

หัวใจที่เปิดทั้งหมด ความคิดที่เปิดกว้างว่าพระเจ้าพูดกับคุณผ่านอะไรก็ได้ ผ่านใครก็ได้ แม้แต่ลา (กันดารวิถี 22:21-39) พระเจ้าพูดกับคุณได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดเฉพาะเวลาคุณอธิษฐาน นมัสการ อ่านพระคำเท่านั้น

พระเจ้าชอบใช้เวลากับคุณ แบบเดินเล่นกับคุณท่ามกลางบรรยากาศสบาย  ๆ เป็นกันเองในสวน แบบที่เดินกับอาดัมและอีฟในยามเย็น

พระเยซู ผู้เลี้ยงแกะของคุณอยากพาคุณไปนั่งริมน้ำ เพื่อฟื้นฟูจิตวิญญาณคุณ ในสดุดี 23

พระองค์นั้นโรแมนติกแบบชายหนุ่มตามจีบสาว ในบทเพลงแห่งโซโลมอน

เปิดหัวใจออกที่คุณจะได้สัมผัสหัวใจของพระเจ้าที่มีต่อคุณ สัมผัสความรู้สึกที่พระองค์มีต่อคุณ รวมทั้ง ความแสนดี ความน่ารัก ความโรแมนติกของพระเจ้า และอีกหลาย ๆ ด้าน หลาย ๆ แง่มุม และพระองค์รู้ใจคุณที่สุด

อย่าลืมติดตามตอนต่อไป Nurturing your Heart and Soul “หล่อหลอมเลี้ยงดูหัวใจและจิตวิญญาณกับพระเจ้า เมื่อพระเจ้าสอนวิชาความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ให้กับลูกของพระองค์ว่าจะดูแลหัวใจอย่างไรดี

Leave a comment