Nurturing your Heart-Soul with God

14 ปีก่อน พระเจ้ารักษาฉันอย่างอัศจรรย์จากแพนิค ซึมเศร้า สิ้นหวัง นั่นคือจุดเริ่มต้นการรู้จักพระเจ้าของฉัน

ผ่านไป 10 ปี ฉันกลับมาเป็นแพนิคอีกครั้ง และอีกครั้งตอนโควิด

สองครั้งนี้พระเจ้าสอนให้ฉันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ปัญหาสุขภาพจิตของฉันเป็นความเจ็บป่วยของ Soul  ซึ่งเกี่ยวกับสุขภาพของจิตใจ Mental Health และสุขภาพอารมณ์ Emotional Health

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่การเยียวยาหัวใจและจิตวิญญาณของฉัน และการเรียนรู้วิชาอารมณ์ในแบบฉบับของพระเจ้าพระบิดา คำแนะนำของพ่อ จากสุภาษิต 4: 20-23 และ 3 ยอห์น 1

จงใส่ใจดูแลหัวใจของเจ้า

เพราะทุกสิ่งไหลออกมาจากใจ

เพราะชีวิตก็ไหลออกมาจากใจ

ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขความเจริญทุกอย่าง

ดังที่จิตวิญญาณของท่านก็จะมีสุขภาพดีด้วย

จิตวิญญาณ (Soul) มี 3 ส่วน คือ Mind, Will, and Emotion

Mind หรือความคิด มีส่วนที่เป็น Conscious mind คือรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และ Subconscious mind เป็นที่เก็บความเชื่อหรือ Beliefs ต่าง ๆ จากประสบการณ์ชีวิตที่หล่อหลอมเรามา ซึ่งอยู่ลึกลงไปและอาจไม่รู้ตัวแต่เป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว

Emotion อารมณ์ และความรู้สึก

พระเจ้าสร้างเรามาให้มีหัวใจ มีความรู้สึก และความรู้สึกนี้นี่เองที่เป็นเหมือนกาวใจ สายใยผูกพันในการสร้างความสัมพันธ์กับตัวเอง กับพระเจ้า และกับทุกคน

อารมณ์เป็นสารจากหัวใจของเราที่บอกให้รู้ว่าเราต้องการอะไร และรู้สึกอย่างไร

Will เป็นการตัดสินใจ การกระทำ แรงปรารถนา และแรงจูงใจที่จะลงมือทำอะไร

เพราะปัญญาจะเข้ามาใน (หัว)ใจของเจ้า

และความรู้จะเป็นความสุข ความอิ่มใจแก่วิญญาณจิตของเจ้า

(สุภาษิต 2:10)

พระองค์ปรารถนาความจริงในส่วนลึกภายในหัวใจของเรา

พระองค์จะสอนสติปัญญาในที่ลึกของหัวใจ ที่ลี้ลับของหัวใจ ที่คุณจะพบกับพระเจ้าสองต่อสอง

(สดุดี 51:6)

หัวใจ จิตวิญญาณเป็นแหล่งของชีวิต ความมีชีวิตชีวา

เป็นสุขภาพ เป็นกำลัง เป็นพลังของชีวิต ของร่างกายทุกส่วน

(สุภาษิต 4:22)

# Your Moods Matter to me อารมณ์ ความรู้สึกของฉันนั้นสำคัญและมีค่า

น้ำตาทุกหยดของฉันมีค่า ร้องไห้ได้ ไม่ผิดอะไร ไม่ใช่อ่อนแอ ไม่ใช่น่าอาย ไม่ต้องอั้น เก็บกดไว้

พระเจ้าแคร์ความรู้สึกของฉันทั้งหมดทั้งลบและบวก

พระเจ้ารักฉันแม้เวลาฉันอารมณ์บ่จอย แม้เวลาฉันหงุดหงิด

#Permission to Feel พระเจ้าอนุญาต ให้เสรีภาพคุณแสดงความรู้สึกได้

เรามักจะได้ยินผู้ใหญ่บอกว่า “อย่าร้องไห้ หนูโตแล้ว ร้องทำไม อายเค้า”

เราจึงไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกมา แต่ปัดทิ้ง เก็บไว้

บอกความจริง บอกความรู้สึกของคุณกับพระเจ้า

เพราะพระองค์ปรารถนาความจริงในส่วนลึกของหัวใจคุณ (สดุดี 51:6)

พ่อคนนี้รับฟังความรู้สึกคุณจากหัวใจ หัวใจที่อ่อนโยน อดทนนาน มีเมตตา ใจดี ต่อคุณ

เรียนรู้ที่จะเปิดหัวใจ แสดงความรู้สึกแบบพระเยซู

พระเยซูโกรธ โมโห

พระเยซู ร่ำไห้ ร้อง เสียงดัง

พระเยซูรำพึงรำพันความรู้สึกในใจ คร่ำครวญกับพระบิดา

พระเยซูบอกพระบิดาว่า ทำไมถึงทอดทิ้งลูก

คุณกล้าที่จะบอกพระเจ้าพระบิดาหรือไม่ว่าคุณรู้สึกว่าพระองค์ทอดทิ้งคุณ

# พระเจ้าเป็นพ่อแม่ที่แสนดี ที่ทำให้ฉันรู้สึกวางใจ ปลอดภัย

เด็ก ๆ จะไม่กล้าที่จะบอกความจริง ไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึก เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อผู้ใหญ่ไม่รับฟังด้วยหัวใจ ไม่รับรู้ แต่ด่วนที่จะตำหนิ ด่วนที่จะตัดสิน ด่วนที่จะให้คำแนะนำ หรือ ตั้งคำถามแบบในการ์ตูนข้างล่างนี้

ภาพใหม่ของพระเจ้าในฐานะพ่อและแม่ที่ใจดี ปลอดภัย

พ่อคนนี้ ปลอดภัยที่จะพูดความจริงในหัวใจ ที่จะแสดงความรู้สึกออกมา

พระเจ้าพระบิดาสอนวิธีใหม่ในการดูแลอารมณ์ของตัวเอง

แทนการปฏิเสธ ปัดทิ้ง ไม่สนใจ หรือ เก็บกด ไม่แสดงอารมณ์ออกมา

แทนการไล่อารมณ์ออกไป แทนการให้เหตุผล Walk by Faith, not by feelings

มาหาพระเจ้าแล้วนั่งคุยแบบเปิดอกกับพระเจ้าแบบการ์ตูนนี้

มาเล่าให้พ่อฟังสิลูก เป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร เกิดอะไรขึ้น

แล้วพ่อก็ปลอบใจ เยียวยาหัวใจ เสริมกำลังใจ จูงมือฉันให้ลุกขึ้นเดินหน้าต่อไปพร้อมรอยยิ้มในหัวใจ

คราวหน้าที่คุณเสียใจ ผิดหวัง หงุดหงิด โมโห เบื่อ

จินตนาการภาพของพระเจ้าพระบิดา ที่พร้อมจะฟังความในใจ ความรู้สึกของคุณด้วยความเข้าใจ

เล่าให้พระเจ้าฟังว่าเกิดอะไรขึ้น คุณรู้สึกอย่างไร เหมือนเล่าให้เพื่อนสนิท

พ่อค่ะ หนูรู้สึก……… ระบายออกมาให้หมด

หรือหยิบกระดาษออกมาเขียนความรู้สึก ความคิดของคุณ

ยกทุกสิ่งในหัวใจ ในความคิด ออกมาเป็นถ้อยคำ หรือตัวหนังสือบนกระดาษ

เสร็จแล้ว จินตนาการว่าคุณหยิบความอัดอั้น คับข้องใจ ความเสียใจ ความน้อยใจ ผิดหวัง….ใส่ถุง

คุณคิดว่าสัมภาระอารมณ์ที่คุณแบกไว้ เก็บไว้ในใจ หนักกี่กิโล และคุณแบกมันไว้ในใจนานแค่ไหน

นึกภาพพระเจ้าพระบิดา แล้วยกถุงสัมภาระอารมณ์ทีทำให้คุณเหนื่อยล้า ให้พระองค์

แล้วฟังว่าพระเจ้าอยากจะปลอบใจคุณอย่างไร อยากจะพูดอะไรกับคุณ อยากจะให้อะไรที่หัวใจคุณต้องการ

เปลี่ยนวิธีใหม่

เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า

และทางของพระเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา (อิสยาห์ 55:8)

บอกพระเจ้าว่าคุณเปิดใจที่จะเรียนรู้วิธีใหม่ ๆ ในการสานสัมพันธ์ สร้างสายใยผูกพันในหัวใจ ในจิตวิญญาณของคุณ ขอพระบิดา พ่อที่แสนดีคนนี้สอนคุณ และแสดงความรักของพระองค์ในแบบที่โดนใจคุณที่สุด

ไม่ต้องอธิษฐาน??? เปลี่ยนวิธีอธิษฐาน

วันหนึ่งพระเจ้าบอกฉันว่า “ไม่ต้องอธิษฐานจากความกลัว” เอ่อ หมายความว่างัยค่ะ พ่อ

เวลากลัวฉันจะอธิษฐานยาวเหยียด และต้องครอบคลุมทุกเรื่อง บางทียังมาต่ออีก กลัวพระเจ้าไม่ได้ยินและจะไม่รู้ว่าฉันอยากได้อะไร ในเวลานั้นสิ่งที่หัวใจฉันต้องการคือรู้สึกปลอดภัยในอ้อมกอดของพระบิดา แล้วฉันจะสงบลงทั้งความคิด ความตื่นกลัวและอาการแพนิค

เปลี่ยนจากคำอธิษฐานยาวเหยียดมาพักนิ่งในพระองค์

จิตวิญญาณของคุณจะสดชื่น เติบโตในบรรยากาศสวยงาม ธรรมชาติ แบบเด็กเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา การผจญภัย ชอบสำรวจ ชอบลองอะไรใหม่ ๆ และสนุกสนาน

ลองใช้สมองฝั่งจินตนาการ ฝั่งศิลปะสวยงามเชื่อมต่อกับพระเจ้าแทนสมองฝั่งซ้ายที่ใช้ความคิด เหตุผล และคอยมองหาวิธีแก้ปัญหา คอยปกป้องคุณจากสิ่งอันตราย

ใช้เวลากับพระเจ้าท่ามกลางธรรมชาติ เดินเล่นในสวน บนชายหาดกับพระเจ้า

ใช้เวลาชิลล์ ชิลล์กับพระเจ้าในแบบที่คุณรู้สึกสบายผ่อนคลาย เปิดใจ เดินเล่น กินไอติม จิบกาแฟกับพระเจ้า ไปสวนสนุก

เขียนบันทึก พูดคุย ถามคำถาม และนั่งฟังคำตอบจากพระเจ้า

และหลากหลายวิธีการสร้างสรรค์อีกมากมาย เพราะพระเจ้าผู้สร้างของเราเป็นช่างศิลป์ชั้นยอด

ฉันเคยนั่งทำศิลปะ Collage ใช้ภาพมาแปะบนกระดาษ แล้วพระเจ้าพูดกับฉันผ่านภาพที่ฉันชอบ

ลองถือกล้องถ่ายภาพ เดินถ่ายรูป แล้วเชื่อมต่อกับพระเจ้า ฉันเจอก้อนหินสวย ๆ มากมาย แล้วพระเจ้าให้ฉันนึกถึงคำว่า You are my rock… Rock of salvation…

ขอให้คุณสนุกกับการเดินทางสู่หัวใจและจิตวิญญาณ โลกภายในใจคุณที่ลึกยิ่งกว่ามหาสมุทร ที่ที่คุณจะมีประสบการณ์ลึกซึ้งกับความรักของพระเจ้า

อย่าพลาดตอนต่อไป Calm and Quiet my Soul with God พักนิ่งในจิตวิญญาณกับพระเจ้า

Leave a comment