“We love because we first have been loved”
“เรารักเพราะเราถูกรักก่อน”
บางทีคุณไม่เคยถูกรัก ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นที่รัก เพราะไม่ได้เติบโตมาในวัฒนธรรมที่แสดงความรัก เลยไม่รู้จักว่าความรักคืออะไร ความรักหน้าตามันเป็นอย่างไร พอมาถึงการรักตัวเอง ก็ยิ่งกว่างง เพราะ no idea แถมยังคิดว่ารักตัวเอง มันเป็นการเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง หลงตัวเอง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง หรือป่าว
ถ้าอยากเข้าใจ Self-Love ให้ดีขึ้น ฉันมีซีรียส์ “รักตัวเองอย่างที่เป็น” ทั้งในบล็อกและ YouTube ที่เป็นความสัมพันธ์ที่ควรค่าต่อการลงทุน ศึกษาพัฒนา เพราะคุณจะได้รับปันผลที่คุ้มค่าเกินคาด
ในยุคนี้เราอาจจะได้ยินบ่อยขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะรักตัวเองอย่างไรดี ทำไม่เป็น
มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า “ผมรู้สึกว่าการรักตัวเองเป็นอะไรที่คนพูดถึงกันเยอะ แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มรักตัวเองต้องทำยังไง”
ก็จริงน่ะ ยิ่งเราไม่เคยมีต้นแบบที่จะเป็นตัวอย่างอ้างอิงให้เห็นเป็นแบบอย่าง เลยยิ่งไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
เลยจุดประกายให้ฉันมานั่งทบทวนเส้นทางการรักตัวเองของฉัน
หลายครั้ง “ทาง” นั้น มักจะคดเคี้ยว วกวน จนไม่อยากเดิน “ทาง “นั้น
แต่ชีวิตมีวิธีนำ “ทาง” เราเสมอ ถ้าเราหยุดสังเกต หรือถูกบังคับให้หยุด เพื่อที่จะได้เห็น
การเดินทางสู่ “การรักตัวเอง” ของฉันเริ่มที่ห้องพูดคุยกับคุณหมอนักจิตวิทยา
การพูดคุยถึงการกลับมาเป็นแพนิคอีกครั้งกับคณหมอจิตแพทย์ผู้น่ารักของฉัน จนฉันขอเรียกว่า “นางฟ้าใจดีของฉัน” ช่วยสะท้อนให้ฉันเห็นความจริง เป็นจุดเริ่มต้นสู่การตระหนักรู้ หรือ self-awareness ว่าฉันไม่ชอบตัวเองเลยที่กลับมาเป็นแพนิคอีกครั้ง ไม่ชอบเวลาที่มีอาการแพนิค เวลาที่รู้สึกวิตกกังวล ท่วมท้นไปหมดแม้กับอะไรเล็กน้อย (นั่นคืออาการส่วนหนึ่งของโรคที่เป็น)
และค้นพบว่าฉันไม่ชอบ ไม่แฮปปี้กับอะไรอีกหลายอย่างในชีวิตตัวเองในขณะนั้น
ชีวิตที่ต้องดูแม่ป่วยนอนเตียง เครียด ทะเลาะกับแม่บ่อย…
เป็นช่วงนึงของชีวิตที่แย่จัง อยากจะไปจากตรงนี้ แต่ไปไม่ได้ ยิ่งทำให้สภาพจิตใจแย่ลงไปอีก
และอยากจะหายเพื่อที่จะไม่ได้เป็นแบบนี้ เพราะไม่ชอบที่เป็นแบบนี้
และที่แย่ไปกว่านั้น ยังโทษตัวเองอีกว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะฉันมันไม่ดีเอง เป็นคนคิดมาก ปล่อยวางไม่เป็น sensitive เกินไป และอีกหลายข้อหาที่ฉันเป็นผู้พิพากษาตัวเอง 555
Inner Battles การต่อสู้ภายใน

ฉันเริ่มเห็นแพทเทิร์นว่าตัวเองมักจะโหดร้ายกับตัวเอง (ต่อ) สู้ ๆ กับตัวเอง กดดัน คาดหวัง ตัวเองโดยไม่รู้ตัว และไม่พอใจความจริงที่เป็นอยู่ ไม่พอใจตัวเอง โทษตัวเอง เรียกว่าปฏิเสธตัวเอง self-rejection นั่นเอง
ลองนึกภาพตามดูน่ะว่าภายในใจ ในหัว และในร่างกายของฉันมีการต่อสู้แบบนี้อยู่ในระดับลึก ๆ คือ ระดับจิตใต้สำนึกอยู่ตลอดเวลา โดยที่ฉันไม่รู้ตัวมาก่อน
มันเหนื่อยแค่ไหนถ้าเราต้องอยู่ใน “war zone”
ฉันเพิ่งเห็นว่าตัวเองทำแบบนี้กับตัวเองตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ เด็กน้อยคนนั้นไม่เคยพอใจ ชอบตัวเองเลย
จากวันนั้น คุณหมอบอกฉันว่าอย่าลืมดูแลเด็กน้อยคนนั้นด้วยนะ
What Self-Love Looks Like To Me
การรักตัวเองนั้นเป็นการเดินทาง การค้นพบ ที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ไม่ใช่ one size fit all
ไม่มีวิธีการเดียว แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ในแบบของแต่ละคน
ไม่มีคำตอบแบบฟันธง เป๊ะ แต่เป็นศิลปะ ที่ต้องปรุง หาวิธี ที่ “ใช่” ในแบบของคุณ
เราต้องเต็มใจ ที่จะค้นหา รู้จักตัวเอง แล้วจะรักตัวเองได้ในแบบที่เป็น
บล็อกนี้ไม่ได้อยากบอกวิธี หรือ “how to” ว่าจะรักตัวเองอย่างไร แบบไหนดี แต่อยากชวนทุกคนมาทำความรู้จัก มาค้นหาด้วยตัวคุณเองว่า วิธีใด แบบใด ที่เหมาะกับคุณ เพราะคุณแตกต่างและมีแบบฉบับเฉพาะตัว เส้นทางของคุณมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวในแบบของคุณ ในแบบที่คุณเป็น ไม่ใช่แบบที่คนอื่นอยากหรือคาดหวังให้คุณเป็น
หวังว่าเรื่องราวของฉันจะเป็นเสี้ยวหนึ่งของแรงบันดาลใจ เป็นไอเดีย เพราะฉันน่ะเคย no idea มาแล้ว
ฉันเริ่มเรียนรู้แพทเทิร์นใหม่ ที่ไม่คุ้นเคย แพทเทิร์นของหัวใจ แพทเทิร์นของความรัก

ฉันเริ่มที่จะ…
เป็นเพื่อนที่โอบกอด ต้อนรับ แทน การผลักไส
หยิบยื่นถ้อยคำแสดงความรัก ที่ไม่เคยรู้จัก เพราะไม่เคยได้ยิน แทน เสียงในหัวที่คอยตำหนิตัวเอง
หยิบยื่นความเห็นอกเห็นใจ แทน การตำหนิ ซ้ำเติมตัวเอง
อ่อนโยน ละมุนละม่อม แทน การโหดร้าย ดุดัน เคี่ยวเข็ญ กดดันตัวเอง
ใจดี ให้อภัย แทน การใจร้าย ไม่ให้อภัยตัวเอง
ยอมรับ พอใจ แทน การปฏิเสธ ไม่พอใจ
ฉันค่อย ๆ สัมผัสความอ่อนโยนในหัวใจของฉันที่มีต่อตัวเอง

Present is a Gift
ปัจจุบันขณะ เป็นของขวัญ
วันนี้คือ”ของขวัญ” นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงเรียกปัจจุบันว่า ‘Present’ คำคมจากหนังเรื่องโปรด “กังฟูแพนด้า”
Present ของคุณในวันนี้ เป็น Gift ของขวัญ
ความจริงในปัจจุบันนี้ของคุณ เป็นของขวัญ บางทีเป็นสิ่งที่ต้องเปิดค้นหา เพราะอาจมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่ก็ได้ เมื่อคุณเปิดใจ อ้าแขน ต้อนรับ Present ของคุณ ความจริงในปัจจุบันของคุณ
มาโอบกอด Present ของคุณ ความจริงที่เป็นอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้น ของคุณกันเถอะ
แล้วคุณจะแปลกใจที่มันกลายเป็น “ของขวัญ” สำหรับคุณ บางทีเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดที่คุณได้มอบให้ตัวเอง
ปัจจุบันนี้ของคุณมีอะไรบ้างที่คุณไม่ค่อยจะพอใจ แฮปปี้ ไม่เพอร์เฟค
ความสัมพันธ์ กับใครบ้าง
ความรู้สึก
งาน
การเงิน
น้ำหนักตัว
สุขภาพกายและใจ
นึกถึง Present สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ คุณรู้สึกอย่างไร
ความรักนั้นยิ่งใหญ่ กว้างใหญ่ไพศาล โอบกอดทุกสิ่ง

Love Embraces All Things
Love Embraces All of You
ความรักโอบกอดทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นคุณ
โอบกอดสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ “Your Present”
โอบกอด ยอมรับ negativity ก่อนที่จะมีพื้นที่ให้ positivity
ยอมรับ ไม่รีบตัดสินว่า “ดี” “ไม่ดี” “ควร” “ไม่ควร” ไม่รีบ “fix”
ต้อนรับ ไม่ผลักไส แม้ความไม่สมบูรณ์
สวัสดี (สถานการณ์ปัจจุบันของคุณ) ฉันรักเธอ
สวัสดี (ความรู้สึกของคุณในขณะนี้) ฉันรักเธอ
แสดงความเมตตา ห่วงใย เห็นอกเห็นใจ กับ Present ของคุณ
แม้ฉันจะไม่ชอบเลยที่เป็นแบบนี้ (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ)
ฉันยอมรับความรู้สึกของฉัน
แม้ฉันจะรู้สึกอึดอัดใจ หงุดหงิดเมื่อนึกถึง (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ)
ฉันยอมรับความรู้สึกของฉัน
แม้ฉันอยากจะให้ (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ) มันเปลี่ยนแปลง หายไป ดีขึ้น
ฉันยอมรับความรู้สึกของฉัน
มันโอเคที่จะรู้สึกเช่นนี้
บางทีฉันเปิดใจที่จะยอมรับ (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ) ของฉัน
บางทีฉันอาจจะเปิดใจที่จะมอง (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ) ของฉันด้วยมุมมองและความรู้สึกใหม่
ฉันเปิดใจที่จะรู้สึกผ่อนคลายกับ (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ) ของฉัน
ฉันเปิดใจที่จะยอมรับ (สถานการณ์ในปัจจุบันของคุณ) ของฉัน
คุณรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ ร่างกายคุณรู้สึกอย่างไร
เมื่อคุณต้อนรับ โอบกอด Present ของคุณ
ความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เป็นอยู่ในปัจจุบัน ด้วยใจ ยอมรับ แทน การปฏิเสธ
Present นั้นจะกลายเป็น Gift ของขวัญล้ำค่า ความสงบสุขกับปัจจุบัน ความรู้สึกผ่อนคลายทั้งใจ กาย และความคิด จากจุดนั้นคุณจะมีพื้นที่และพลังจากความรักและการยอมรับที่จะขับเคลื่อนคุณไปข้างหน้า
ขอให้คุณสนุกกับการค้นพบตัวเอง ค้นหาเส้นทางของคุณ บน Self-Love Journey นี้
อ้างอิง:
Tara Brach. Self-Acceptance.
Nick Ortner. Manifesting Your Greatest Self.
How to love yourself. www.calm.com.