In My Father’s House Part 5

กฎ ใหม่ ในบ้านของพ่อฉัน

เรียนรู้ที่จะพัก

หยุดพัก ใส่ใจดูแลตัวเอง

เพราะคุณสำคัญ มีค่า

ตอนที่เริ่มเครียดจากการบ้างานในวัยสร้างเนื้อสร้างตัวของ พอกลับมาบ้าน อยากจะพักแต่สมองฉันยังคงทำงานไม่หยุดแบบร้าน 7-11 เลย จนวันหนึ่งฉันมาถึงจุดที่เหนื่อยหมดแรง หมดไฟ และหมดทุกอย่างในชีวิต จึงได้มารู้จักพระเจ้า และพระเยซูประทานการพักให้ฉัน

ฉันเล่าให้พี่แสนดีที่เชียงใหม่ฟังว่า ตั้งแต่เด็กจนโตฉันรู้สึกเหมือนแบกโลกไว้หนักอึ้ง ซึ่งตอนหลังฉันมารู้ว่าเด็กคนนั้นเรียนรู้ที่จะแบกโลก แบกภาระความรับผิดชอบตอนที่พ่อป่วยหนักจนเสียธุรกิจ เสียเงิน เสียบ้านไปตอนฉันอยู่ม.ต้น

หลังจากนั้นพี่แสนดีอธิฐานให้ฉันว่า “พระเจ้าสอนให้น้องเค้ารู้ว่า มีอะไรที่เค้าทำได้ให้เค้าทำ มีอะไรที่มันหนักเกินไป ใหญ่เกินไป ให้เค้ายกให้พระองค์ ขอให้พระองค์ช่วย”

ฉันจำได้ไม่ลืมว่าฟังเพลงนี้แล้วร้องไห้ บอกพระเจ้าว่า “Peace นี่แหละที่หนูอยากได้และโลกนี้ก็ให้ไม่ได้”

My peace I give unto you

It’s a peace that the world cannot give

It’s a peace that the world cannot understand

ฉันได้สัมผัสสันติสุขในใจที่พระเยซูบอกว่าพระองค์ให้สันติสุขที่โลกนี้ให้ไม่ได้ จิตใจที่ว้าวุ่นของฉันสงบลง นิ่งและเบา

ตรงกันข้าม หลายสิ่งที่ฉันเรียนรู้จากโลกนี้ ไม่ว่าจะจากโรงเรียน การทำงาน ล้วนแต่ส่งเสริมให้ยากที่จะมีความสงบสุขในใจ “peace of mind” เป็นของหายาก เงินก็ซื้อไม่ได้ จำได้ว่าในวัยที่ฉันมีงานดี ๆ มีห้อง มีรถประจำตำแหน่ง มีลูกน้อง มีเงิน อย่างที่ผู้หญิงวัยทำงานคนหนึ่งฝันไว้ ฉันไม่เคยมี

แต่ไม่นานนักฉันก็วนกลับไปสู่วิถีชีวิตเดิม ๆ

จนพ่อจ๋าฝึกฉันใหม่ในทางของพ่อ วิถีของพ่อและเยียวยาแพทเทิร์นเดิม  ๆ ความเชื่อเดิม ๆ ที่ผลักดันให้ฉันกลับสู่วิถีชีวิต Busy และ เร่งรีบ

ฉันจะรู้สึกว่าตัวเอง productive เมื่อฉันทำอะไรเสร็จ

ถ้าฉันไม่ได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ฉันจะรู้สึกแย่ รู้สึกผิด แล้วก็ลุกขึ้นมาหาอะไรทำอีกแล้ว

บางทีคุณอาจจะเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กว่า…

คุณต้องทำอะไร จึงจะรู้สึกว่ามีคุณค่า มีความสำคัญ

ต้องขยันนะ อย่าขี้เกียจ อยู่เฉย ๆ ทำไม   

บางทีคุณโตมาในครอบครัวที่เห็นพ่อแม่ทำงานหนัก ไม่เคยหยุดพัก

Photo by Mizuno K on Pexels.com

อีกทั้งวิถีชีวิตและสังคมยุคใหม่สอนให้เราต้องมีประสิทธิภาพ โปรดักทีฟ จนเป็นเหมือนเเสียงที่ผลักดันให้เราต้องตื่นเช้า ต้องขยันทำงาน หาความรู้ บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องทำอะไรหลายอย่างพร้อม ๆ กัน ฟัง podcast ไปด้วยระหว่างวิ่ง ขับรถ ออกกำลังกาย หรือแม้แต่เมื่อนั่งรอ รวมทั้งเช็คข้อความระหว่างกินข้าว

ฉันเองเคยภูมิใจในตัวเองที่เป็น multi-tasking

ความกลัวผิดพลาดทำให้ฉันกลัวว่าจะทำงานเสร็จไม่ทัน หรือทำได้ไม่ดีพอ ฉันจึงไม่ยอมหยุดพัก แต่ทำงานลากยาว ตามประสาสาวอึด ถึก ที่ฉันเคยภาคภูมิใจในวัยเริ่มทำงาน

ความไม่กล้า Say No ไม่กล้าตอบปฏิเสธ และมีทัศนคติ “ฉันทำได้” ตลอด

จนวันหนึ่ง ร่างกายของเราจะเป็นฝ่ายพูดเองว่าไม่ไหวแล้ว มากเกินไป

เหมือนที่ฉันแบตหมดกลางอากาศ เจอกับภาวะหมดไฟ และกลับมาเป็นแพนิคอีก

ความกังวลและความกลัวในวัยเด็ก

และไม่เคยรู้ว่าฉันยังมีพระเจ้าพระบิดาที่ฉันขอเรียกว่า “พ่อจ๋า” อีกคนที่รักและห่วงใย และจะเลี้ยงดูฉัน

ฉันเลยทำงานหนัก อยากประสบความสำเร็จ มีเงินเร็ว ๆ …

วัฒนธรรม Busy และวิถีชีวิตยุคประสิทธิภาพสูง ผลผลิตสูง อิทธิพลจากวัยเด็ก สังคม และสื่อทำให้เรามีวิถีชีวิตแบบนี้กัน

แม้แต่ชีวิตคริสเตียนของฉันก็คล้าย ๆ กัน

ในยุคนี้ ยากที่จิตวิญญาณเราจะรู้สึกสงบ นิ่ง แบบที่พระเยซูว่าจริง 

มีคนมากมายที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า

มีคนมากมายที่ยังไม่ได้รับความรอด

ทั้งหมดนี้อาจทำให้เราไม่รู้สึกปลอดภัยที่จะหยุดพัก

ฉันเปิดใจที่จะเรียนรู้วิถีใหม่

ที่จะหยุดพัก พักนิ่ง สงบ  

พ่อจ๋าสอนให้ฉันเข้าใจว่า

เป็นสิ่งจำเป็นที่ฉันจะดูแลตัวเอง

เป็นสิ่งดี ๆ เป็นการแสดงความรักต่อตัวเอง

และฉันสมควรได้รับการพักจริง ๆ

ฉันเปิดใจที่จะเรียนรู้ว่า “การหยุดนิ่ง” จะช่วยให้ฉันทำงานได้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้น

ในการหันกลับและหยุดนิ่งเจ้าจะรอด

การเงียบสงบและการไว้วางใจจะเป็นกำลังของเจ้า (อิสยาห์ 30:15)

พระเจ้าสอนให้ฉันหยุดพักเพราะรู้ว่าการพักนั้นดีต่อฉัน จำเป็นสำหรับฉัน

พระเจ้าสอนให้ฉันหยุดพักแบบเด็กเล็ก ๆ ที่รู้ว่ามีพ่อแม่คอยดูแล

และพระเจ้าสอนให้ฉันหยุดพักจากแพทเทิร์นเดิม ๆ

พักจากการตำหนิตัวเอง

พักจากความรู้สึกผิด

พักจากความคาดหวังและการกดดันตัวเอง

พักจากความเชื่อเดิม ไลฟ์สไตล์เดิม ๆ

พักจากความเข้าใจผิด ๆ ที่ฉันคิดว่าฉันยังไม่เป็นที่พอใจของพระเจ้า และยังต้องทำอะไรมากมายเพื่อให้พ่อคนนี้พอใจ ต้องเติบโตฝ่ายวิญญาณ ต้องเสริมสร้างวินัย ต้องรับใช้ ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกหลายอย่างเพื่อที่จะมีค่า และสำคัญ

Photo by Alenka Skvarc on Pexels.com

เพราะพ่อจ๋าอนุญาตให้พักได้

มาอนุญาตให้ตัวเองได้หยุดพักกัน

หากคุณรู้สึกเหนื่อยล้า แบกภาระสิ่งที่ต้องทำ ควรทำมากมายทั้งการทำงาน ชีวิตส่วนตัวและชีวิตคริสเตียน

หยิบแบกภาระ ความรู้สึกผิด ความคาดหวัง แรงกดดันที่คุณแบกมันไว้ ออกจากร่างกาย จิตใจ ความคิดของคุณ แล้วยกให้พระเจ้า

ลูกเปิดใจที่จะอนุญาตให้ตัวเองได้หยุดพัก

บางทีฉันเปิดใจที่จะเรียนรู้ว่ามีวิถีใหม่ที่ดีกว่า

การหยุดพักอาจช่วยให้ฉันทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เพราะเมื่อฉันหยุดพัก จะช่วยให้ความคิดฉันได้พัก แล้วความคิดฉันจะแจ่มใสขึ้น

และเมื่อความคิดฉันสงบ ฉันจะเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่ฉันจะทำต่อไปได้ชัดเจน

การพักผ่อน จะช่วยให้ฉันมีไอเดียใหม่ ๆ

ฉันปลดปล่อยความคาดหวัง แรงกดดันจากคนรอบข้าง จากสังคม จากตัวเอง และบางทีที่ฉันคิดว่าจากพระเจ้า

ปลดปล่อยความรู้สึกว่าต้องทำอะไรมากขึ้น

ปลดปล่อยความรู้สึกว่าต้องก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา

ปลดปล่อยความรู้สึกว่าต้องวางแผน

ปลดปล่อยความรู้สึกว่าต้องคิดแก้ปัญหา

ไม่มีอะไรที่จำเป็นต้องทำ ต้องคิดในตอนนี้

ฉันสามารถรอให้ถึงพรุ่งนี้ แล้วค่อยคิด หรือทำได้

ช่วงเวลานี้ เป็นเวลาพัก

หากฉันพักเต็มที่ วันพรุ่งนี้ฉันจะได้รับการเสริมกำลัง มีเรี่ยวแรงใหม่

ฉันปลอดภัยที่จะพัก

ฉันจะพักแบบสบายใจ

พักอย่างมีความสุขใจ

เพราะการพักนั้น joyful นำความสุขใจมาให้ฉัน

ฉันอนุญาตให้ร่างกายได้พัก

ฉันอนุญาตให้ความคิดได้พัก

ฉันอนุญาตให้จิตวิญญาณได้พัก

จากความยุ่งวุ่นวาย สู่ความสงบนิ่ง

จากเสียงดังของสื่อต่าง ๆ สู่ความเงียบสงบ

จากการทำนู่นทำนี่ สู่การพัก ไม่ต้องทำอะไร

ไม่ต้องอธิษฐาน ไม่ต้องขออะไรในช่วงเวลานี้

พระบิดารู้ดีว่าคุณต้องการอะไร ก่อนที่คุณจะขอ

ใช้เวลาตรงนี้พักนิ่ง สงบในอ้อมกอดพ่อ

นานเท่าที่คุณต้องการ

ให้พระองค์ฟื้นฟูจิตใจของคุณ

Leave a comment