อิทธิพลของสื่อ หนังและนิทาน Fairytales ทำให้เด็กสาวหลายคน (รวมทั้งฉันด้วย) รอคอยเจ้าชายมาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์  ทำให้มีความสุข รอคอยที่จะถูกรัก ถูกเลือก

วันเวลาผ่านไป อีกหลายปี กว่าจะเรียนรู้ว่ารักนั้นเป็นอย่างไร

มาเรียนรู้ที่จะเลือกตัวเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง และรักตัวเองกันดีกว่า เพราะว่าความรักที่เรารอคอยให้ใครบางคนมาเติมเต็มให้เรานั้น ไม่สามารถที่จะเติมเต็มและเป็นความสัมพันธ์ที่ดีได้เลย ถ้าเราไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง ไม่รู้ว่าจะรักและดูแลหัวใจของตัวเองอย่างไร

วาเลนไทน์มักจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ที่เราอยากมีกับคนอื่น แต่ว่า

“ความสัมพันธ์ที่คุณมีกับตัวเองเป็นพื้นฐานของทุกความสัมพันธ์”

ไม่ว่าวันวาเลนไทน์นี้คุณจะมีใครคนนั้นหรือไม่ก็ตาม คุณเป็นใครคนนั้นแหละที่หัวใจคุณต้องการและรอคอยเสมอ คุณเป็นคนนั้นแหละที่อยู่เคียงข้างตัวเองมาตลอด ทุกวันเวลา

ความรักมีหลายรูปแบบ

ความรักไม่ได้มีแค่ Romantic Love แบบที่เห็นในหนัง และนิยายที่ชอบอ่าน

เปิดหัวใจให้ความรักรอบตัวหล่อเลี้ยง เติมเต็มหัวใจคุณ

รักตัวเอง รักจากครอบครัว รักจากเพื่อนสาว

รักจากน้องหมา น้องแมว

รักธรรมชาติ รักศิลปะ รักเพลง รักหนัง

รักจากเด็กน้อย จากการเล่นสนุกกับเด็ก ๆ

และรักจากพระเจ้าที่จะเติมเต็มหัวใจคุณ

เมื่อหัวใจคุณได้รับการเติมเต็มจากความรักที่คุณมีให้ตัวเองและรักรอบตัวคุณแล้ว Romantic Love รักจากใครคนนั้นเป็นเพียงโบนัส เป็นส่วนเสริม เพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่ขาดหายไปจากหัวใจของคุณ

เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง

“We love because we first have been loved”

“เรารักเพราะเราถูกรักก่อน”

บางทีคุณไม่เคยถูกรัก ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นที่รัก เพราะไม่ได้เติบโตมาในวัฒนธรรมที่แสดงความรัก ไม่รู้จักภาษารัก เลยเคอะเขินที่จะแสดงความรัก ไม่รู้จักว่าความรักคืออะไร ความรักหน้าตามันเป็นอย่างไร

บางทีคุณไม่ได้รับการดูแลอย่างใส่ใจในวัยเด็ก คุณเลยเรียนรู้ที่จะใส่ใจดูแลคนอื่นมากกว่าตัวเอง เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ ใส่ใจคนอื่นก่อนตัวคุณ เพราะเข้าใจผิด ๆ และเป็นวิธีการที่คุณเรียนรู้ว่าคุณมีค่าและสำคัญ จากสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่จากตัวตนของคุณ

พอมาถึงการรักตัวเอง ยิ่งกว่างง เพราะ no idea

แถมยังคิดว่ารักตัวเอง มันเป็นการเห็นแก่ตัว หลงตัวเอง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง นึกถึงแต่ตัวเองหรือป่าว

มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่า “ผมรู้สึกว่าการรักตัวเองเป็นอะไรที่คนพูดถึงกันเยอะ แต่เชื่อว่าหลายๆคนก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มรักตัวเองต้องทำยังไง”

ก็จริงน่ะ ยิ่งเราไม่เคยมีต้นแบบที่จะเป็นตัวอย่างอ้างอิงให้เห็นเป็นแบบอย่าง เลยยิ่งไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร

บล็อกนี้ไม่ได้อยากบอกวิธี หรือ “how to” ว่าจะรักตัวเองอย่างไร แต่อยากชวนทุกคนมาทำความรู้จัก มาค้นหาด้วยตัวคุณเองว่า วิธีใด แบบใด ที่เหมาะกับคุณ เพราะคุณแตกต่างและมีแบบฉบับเฉพาะตัว

การรักตัวเองนั้นเป็นการเดินทาง

เป็นการค้นหา รู้จักตัวเอง

รู้จักความต้องการของตนเอง

แล้วจะรักตัวเองได้ในแบบที่คุณเป็น

Love is kind…

ความรักนั้นใจดี เมตตา อ่อนโยน ละมุนละม่อม

ไม่โหดร้าย ใจร้าย ดุดัน เคี่ยวเข็ญ หรือกดดัน

อาจเป็นคำพูดใจดี ชม เชียร์ ให้กำลังใจตัวเอง

อาจเป็นการมองตัวเองในมุมมองใหม่ ผ่านสายตาของความรัก ความเห็นใจ และการยอมรับ

อาจเป็นการอนุญาตให้ตัวเองหยุดพัก เมื่อร่างกายคุณบอกว่าเหนื่อยแล้ว

อาจเป็นการเลิกกดดันตัวเอง ให้อภัยตัวเอง เป็นเพื่อนที่ดีกับตัวเอง

Love accepts all parts of you…

ความรักนั้นใจกว้าง โอบกอดทุกส่วนที่เป็นคุณ

โอบกอดโดยไม่รีบเปลี่ยนแปลง ไม่รีบ กำจัด แก้ไข

 แต่ต้อนรับและโอบกอดส่วนที่คุณไม่ชอบ คิดว่ายังไม่ดีพอ ยังไม่เพอร์เฟค

บางทีคุณอาจไม่พอใจกับอะไรบางอย่างในชีวิตของคุณ

บางทีคุณอาจจะไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่ในชีวิตคุณ

บางทีคุณไม่แฮปปี้กับตัวเอง งาน น้ำหนักตัว ความสัมพันธ์

บางทีคุณทำผิดพลาด

นึกถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบ ไม่แฮปปี้เกี่ยวกับตัวเอง

วางมือที่หัวใจของคุณ

เปิดหัวใจกว้าง ๆ หายใจเข้าออกช้า ๆ

โอบกอดทุกสิ่ง ทุกส่วนที่คุณไม่ชอบ ไม่แฮปปี้

โอบกอดความผิดพลาด ความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง

อนุญาตให้รู้สึก รับฟังโดยไม่รีบตัดสิน

ยอมรับ โดยไม่รีบตัดสินว่า “ดี” “ไม่ดี” “ควร” “ไม่ควร”

โอบกอด ยอมรับ negativity ก่อนที่จะมีพื้นที่ให้ positivity

การยอมรับ ทำให้คุณพอใจกับตัวเอง กับชีวิต กับการเดินทางของคุณ กับระหว่างทาง

การยอมรับทำให้คุณแฮปปี้ในขณะนี้ ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ในสิ่งที่คุณเป็น ในสิ่งที่คุณมี ไม่ใช่ เลื่อน ความสุข ออกไป จนกว่า …

เมื่อคุณรักและยอมรับตัวเองอย่างที่เป็น และทุกส่วนได้ด้วยความใจดีและความเห็นอกเห็นใจ คุณจะพบว่าคุณจะรักและยอมรับคนอื่นได้ง่ายขึ้น

ขอให้คุณสนุกกับการบ่มเพาะ เลี้ยงดูทะนุถนอมหัวใจคุณด้วยความรักและการยอมรับ และความใจดี

ด้วยรัก

จากใจ – Joy