โควิด ก็หยุดความรักพ่อไม่ได้  EP. 2

ปลอบใจการสูญเสียในวัยเด็ก เมื่อพ่อป่วย หลังจากพระเจ้าเยียวยาการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตไปแล้ว คือสูญเสียสามีกะทันหัน หาอ่านหรือฟังได้ใน Ep 1: สูญเสียสามี เยียวยาความเศร้าโศกและผลกระทบจากเหตุการณ์สะเทือนใจ แต่ พระเจ้าก็ไม่หยุดแค่นั้น ยังคงมุ่งหน้าต่อไป….Your Love is Relentless รักของพ่อไม่มีอะไรยั้งหยุดได้ ฉันได้มีประสบการณ์กับ Redemptive love รักที่กู้คืนทุกฉากทุกตอนในชีวิต แม้ฉันจะไม่เข้าใจ แต่พระเจ้าเข้าใจ และปะติดปะต่อต่อเรื่องราวให้ฉันโดยพาฉันย้อนเวลากลับไปสู่ไทม์ไลน์ของชีวิตที่มีการสูญเสียสำคัญ และยังไม่ได้รับการดูแล Ep 2: ปลอบใจการสูญเสียในวัยเด็ก เมื่อพ่อป่วยจนเสียธุรกิจ วันหนึ่งฉันเล่าให้พี่แสนดีฟังว่ายังติดใจภาพเด็กหญิงที่เต่าเพื่อนรักตายแล้วฉากสุดท้ายพ่อโอบกอดเด็กคนนั้นแล้วลุกขึ้นเดินไปด้วยกันข้างหน้าอยู่เลย แม้จะผ่านมาหลายอาทิดแล้ว พี่เค้าเลยบอกว่า “ถามพระเจ้าดูสิว่ามีเหตุการณ์ไหนที่พ่ออยากจะปลอบใจเด็กน้อยจากการสูญเสียอีกบ้าง” ฉันนั่งนิ่ง ๆ และพระเจ้าพาฉันไปสัมผัสหัวใจส่วนลึกของเด็กคนนั้น ในวันที่ได้ข่าวร้าย “ป๊าป่วยหนัก” ตอนฉันอยู่ ม. 3 ฉันร้องไห้นานมาก ในขณะที่พี่แสนดีนั่งฟังเงียบ ๆ ทางไลน์วิดีโอคอล จากเชียงใหม่ วันนั้นเด็กน้อยคนนั้น กลัว ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อจะเป็นยังไง จะตายมั้ย แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร น้องสาวเล่าว่าเหมือนฝันแตกสลาย เป็นช่วงเวลายุ่งยากใจ สับสน เต็มไปด้วยคำถามมากมายในใจเด็กน้อย…

ควันหลงโควิดที่ต้องรับมือ Covid Anxiety Part 2  

วิถีใหม่ในการรับมือความวิตกกังวลยุคโควิด มุมมองใหม่ วิธีตรงกันข้าม สัญชาติญาณของมนุษย์ทำให้เราสู้ หรือ หนี เมื่อรู้สึกไม่ปลอดภัย อันตราย แต่เวลาที่คุณต้องต่อสู้กับอะไรก็ตาม มันเหนื่อยนะ ต้องใช้พลังงานทั้งร่างกาย จิตใจ อะไรที่คุณต่อต้าน จะยิ่งมีมากขึ้น อะไรที่คุณเพ่งมอง จดจ่อ จะใหญ่ขึ้น โตขึ้น เหมือนเวลาฝนตก คุณหยุดฝนได้หรือไม่? ไม่ได้ นอกเหนือการควบคุมของคุณ เช่นกัน คุณหยุดอาการ ความคิด จิตใจที่ไม่สงบนั้นไม่ได้ เหมือนหยุดฝนไม่ได้ เพราะเป็นกลไกอัตโนมัติที่เตรียมพร้อมให้สู้ หนี ทำให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก มึนหัว เหงื่อออก คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น นั้นเป็นอาการที่ไม่พึงประสงค์ แต่ไม่มีอันตราย สิ่งที่คุณควบคุมและทำได้คือ พกร่ม กางร่ม จนคุณเดินผ่านฝนไปได้ คุณสามารถฝึกทักษะกางร่ม เพื่อผ่อนคลายระบบประสาทอัตโนมัตินี้ได้เพื่อให้คุณผ่านอาการไปได้ จนกว่าอาการจะค่อย ๆ บรรเทาลง คลายลง จนหยุดไปเองได้ กลยุทธ์รับมือด้วยวิธีตรงข้ามกัน คือ ไม่ใช่พยายาม หยุด ความกังวล หรืออาการ…

ควันหลงโควิดที่ต้องรับมือ Covid Anxiety Part 1:

Covid หรือ Covid Anxiety หรือ Health Anxiety คืออะไร เกิดขึ้นอย่างไร ในสถานการณ์โควิดที่ทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นภัยเศรษฐกิจ รู้สึกไม่พอ ขาดแคลน สร้างความไม่แน่นอน นั้นเป็นปกติที่จะทำให้มนุษย์เรากังวลมากขึ้น Covid Anxiety หรือ Health Anxiety ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณกลัวว่าจะมีอันตรายต่อสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก พอมีอาการอะไร ก็จะกังวลว่าจะเป็นโรคอะไรรึป่าว จะเป็นโควิดมั้ย ก็จะหาข้อมูล เช็คอาการ หาหมอ อยากจะไปโรงพยาบาลแต่ก็กลัว แล้วก็จะกังวลหนักขึ้น อาการแย่ลง ก่อนจะพูดถึงวิธีการรับมือ อยากให้คุณเข้าใจก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณในภาวะวิตกกังวล เครียด ปฏิกิริยาของร่างกายในภาวะวิตกกังวล เครียด ความเครียด วิตกกังวลนั้นไม่ใช่เป็นแค่อยู่ในหัวของคุณเท่านั้น ไม่ใช่แค่คิดไปเอง แต่เป็นการตอบสนองของร่างกายทั้งทางสรีรวิทยา และทางจิตวิทยา เรามีระบบป้องกันภัยที่จะตอบสนองต่ออันตรายหรือภัยคุกคาม เป็นการตอบสนองแบบอัตโนมัติ ทันทีและรวดเร็ว เพื่อปกป้องเราจากอันตราย ด้วยการสู้ วิ่งหนี หรือ เมื่อทำอะไรไม่ได้อาจจะหมดสติ เรียกว่า Fight – Flight – Freeze…

สุขภาพดีขึ้นง่าย ๆ ด้วย การขอบคุณร่างกายของคุณ

คืนหนึ่งหลังจากที่เหนื่อยและยุ่งมาทั้งวัน เป็นครั้งแรกที่ฉันอยากจะขอบคุณร่างกายของฉันที่ช่วยฉันทำงานมาทั้งวัน หลังจากนั้นฉันพบว่าฉันเริ่มที่จะชื่นชอบ ขอบคุณร่างกายทุกส่วนของฉันจากใจจริง แต่ที่ประหลาดใจก็คือเมื่อฉันเริ่มชื่นชอบ เห็นคุณค่าและความสำคัญของร่างกายฉัน ฉันก็เริ่มขยันออกกำลังกายมากขึ้นเอง ชอบทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นได้ง่าย ๆ โดยไม่รู้สึกขี้เกียจ หรือต้องพยายามเหมือนก่อน จนน้ำหนักลดเองโดยไม่รู้สึกทรมานกับการอดอาหาร พอฉันรู้สึกดีกับร่างกายของตัวเอง ฉันก็รู้สึกดีกับตัวเอง และฉันก็รู้สึกอิ่ม (ใจ) และสุขใจ   การขอบคุณร่างกายเปลี่ยนมุมมอง ความรู้สึกของฉันที่มีต่อรูปร่างหน้าตาของฉันจากมุมเดียวจนเคยชิน จากมุมมองที่ได้รับอิทธิพลจากสื่อต่าง ๆ ที่ให้คำนิยามของคำว่า สวยงาม คืออะไร จนฉันมักจะนึกถึงร่างกายของฉันในแง่ สวย ไม่สวย ผอม ไม่ผอม ดูดีหรือไม่ จนลืมนึกถึงแง่มุมอื่น ๆ ไปเลย แต่ ไม่ว่าเราจะมีมุมมอง ความคิด รู้สึกอย่างไรกับ รูปร่าง หน้าตา น้ำหนัก ของเราก็ตามร่างกายของเราทุกส่วนยังคงมุ่งมั่นรับใช้เรา ทำหน้าที่ดูแลเราอย่างซื่อสัตย์ วันแล้ววันเล่า กี่ปีมาแล้วนะ มาใช้เวลาสักครู่ นึกถึงและขอบคุณร่างกายของเรากัน  หลับตา หรือ ก้มมองพื้น โฟกัสที่ลมหายใจตามธรรมชาติของคุณ ร่างกายคุณทำหน้าที่หายใจโดยคุณไม่ต้องนึกถึงเลย หายใจเข้ายาว ๆ ทางจมูก…

Gratitude ขอบคุณสิ่งดี ๆ ช่วยผู้ป่วยติดเตียง ซึมเศร้าได้อย่างไร

แม่ของฉันป่วยเป็นอัมพาต ช่วงปีแรก ๆ แม่ก็มีความหวังว่าถ้าขยันทำกายภาพ เดี๋ยวก็เดินได้ เพราะเรามักจะให้กำลังใจแม่แบบนี้ ผ่านมาจนปีที่สามก็ยังเดินไม่ได้ ช่วงนั้นแม่เริ่มไม่อยากทำกายภาพ หงุดหงิดบ่อยขึ้น พูดน้อยใจ ตัดพ้อ มีปัญหากับคนดูแล และลูก ๆ ฉันเริ่มเอะใจว่าคงต้องพาแม่ไปพบคุณหมอจิตแพทย์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินแม่บอกหมอว่า “เสียใจ ก็สามปีแล้วยังเดินไม่ได้” คุณหมออธิบายให้ฉันฟังว่าแม่เป็นซึมเศร้าแบบหงุดหงิด ไม่ใช่ซึม เงียบไปเลย ก็จะสังเกตยาก และตอนนั้นฉันเองก็ยังไม่เข้าใจว่าการสูญเสียความสามารถในการเดิน ความสามารถในการช่วยตัวเองนั้นเป็นการสูญเสีย (Loss) ที่ยิ่งใหญ่นะ นำความเศร้าโศกและส่งผลต่อจิตใจได้เช่นกัน ทั้งแม่และฉันต่างก็มุ่งเป้าหมายไปที่จุดหมายปลายทาง ว่าวันหนึ่งเมื่อแม่เดินได้ เราจะมีความสุข (อีกครั้ง) แต่ในการเยียวยาฟื้นฟูที่ต้องใช้เวลานานแบบผู้ป่วยอัมพาต การใช้ผลลัพธ์เป็นแรงจูงใจ อย่าง “ทำนะแม่ ขยันนะแม่ จะได้เดินได้” ในช่วงแรกอาจจะได้ผล แต่ในระยะยาว เมื่อยังไม่เห็นผล แม่จึงเสียใจ ผิดหวัง ไม่อยากทำ ก็เป็นอีกระยะหนึ่งของการสูญเสียความหวัง เมื่อหวังนั้นยังไม่เป็นจริง ทั้งแม่และลูก ๆ เริ่มหมดกำลังใจในระหว่างทางก่อนไปถึงจุดหมาย พอเข้าใจความรู้สึกของแม่ ฉันหันมาใส่ใจดูแลจิตใจแม่ด้วยการชวนแม่ขอบคุณสิ่งที่แม่ยังมีด้วยกันทุกเช้า เพื่อที่แม่จะได้มีความสุขตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องรอให้เดินได้ก่อนแล้วจึงจะมีความสุข ขอบคุณ …ที่เช้านี้ยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณสำหรับลมหายใจ…

เขียนบันทึกขอบคุณ ช่วยเยียวยาจิตใจ คืนความสุขให้อีกครั้ง

เ โควิดปีที่แล้ว กระตุ้นผลกระทบจากการสูญเสียสามีกระทันหันเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนฉันกลับมามีอาการแพนิคอีกครั้ง ในช่วงที่รอพบคุณหมอฉันได้รู้จักคุณลุงคนหนึ่งทางออนไลน์ คุณลุงแชร์ประสบการณ์ PTSD หรือโรคเครียดจากเหตุการณ์รุนแรงของคุณลุงจากการผ่านสงคราม และอธิบายให้ฉันรู้จักและเข้าใจ Trauma หรือเหตุการณ์สะเทือนใจว่าอาจจะเป็นการสูญเสีย เช่น สูญเสียบุคคลที่รักกะทันหันแบบที่เกิดขึ้นกับฉันก็ได้ แล้วฉันก็ได้มีโอกาสพูดคุยผ่าน Skype กับคุณลุงและคุณป้าที่น่ารักที่นั่งฟังฉันเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น และปลดปล่อยผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นและความรู้สึกบางอย่างที่ยังค้างคาใจ จากนั้นคุณลุงบอกให้ฉันเขียน Gratitude Journal หรือ สมุดบันทึกขอบคุณ คุณลุงบอกว่าให้นึกถึง 3 สิ่งดี ๆ เกี่ยวกับฮันนี่ที่จากฉันไปเมื่อ 14 ปีก่อน ให้นึกถึงสิ่งดี ๆ 3 ข้อ เกี่ยวกับฮันนี่ที่ฉันอยากจะขอบคุณหรือซาบซึ้งใจ เป็นเวลา 30 วัน โดยไม่ซ้ำกัน จำได้ว่าฉันไม่เข้าใจว่าทำไม แล้วมันจะดีเหรอ ไม่อยากคิดถึงอดีต มันนานมากแล้วนะ วันนี้ก็มีความสุขดีแล้ว แต่ฉันก็เขียน จนครบ 30 วัน หลังจากฮันนี่ตาย สมองของฉันก็สะดุดกึกอยู่ในโหมด สูญเสีย เหมือนเทปบันทึกเดิมในหัวที่ถูกเก็บไว้ในไฟล์สมองของฉัน หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาที่แสนทุกข์ทรมานมาได้ สมองเราก็มีวิธีปกป้องตัวเอง ฉันนึกอะไรไม่ออกเลยเกี่ยวกับฮันนี่ เหมือนสมองมันตื้อ…

รีเซ็ตวงจรสมองใหม่ สร้างพื้นที่ปลอดภัย ปลอดโควิด

ท่ามกลางสถานการณ์โควิดที่สร้างความไม่แน่นอน ทำให้รู้สึกว่ามีภัยคุกคามต่อชีวิตรวมทั้งผลกระทบจากโควิด สร้างความเครียด กังวลมากมายมาเป็นระยะเวลานาน จนส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจ และร่างกาย ก็เพราะว่าสมอง จิตใจ และร่างกายนั้นทำงานประสานกัน สมองก็จะส่งสัญญาณเตือนภัยให้ร่างกายเตรียมพร้อมออกรบ จะต่อสู้ หรือ วิ่งหนีดี กล้ามเนื้อเกร็ง พร้อมต่อสู้ หัวใจสูบฉีด อดรีนาลีนหลั่ง หายใจแรง เร็ว โหมดนี้จะใช้พลังงานสูงมาก คุณจะรู้สึกเหนื่อย หอบ หมดแรงได้ง่าย ๆ เพลีย ถ้าช่วงโควิดคุณมีอาการแบบนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ ปกติแล้วสมองจดจำสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ คล้ายทางเดินในป่าที่มีคนใช้บ่อย ๆ จนกลายเป็นทางเดินที่เคยชิน แต่ข่าวดีก็คือเราสามารถรีเซ็ตวงจรสมองได้ เราสามารถสร้างทางเดินให้สมองใหม่ได้ ถ้าคุณเบื่อเส้นทางเดิม คือ โควิด = เครียด = อันตราย มาเปลี่ยนเส้นทางใหม่เป็น ปลอดภัย = สบายใจ    เราสามารถเปลี่ยนเส้นทางใหม่ให้สมองได้ ด้วยการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อสมองส่วน “จินตนาการ” สร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างความรู้สึกปลอดภัยภายในใจ เพื่อให้สมองส่งสัญญาณบอกร่างกายว่าปลอดภัยนะ เพราะฉะนั้น ผ่อนคลายได้…

การถูกปฏิเสธ กับปัญหาสุขภาพจิตใจ

Rejection and Mental Health จากการพูดคุยกับคนที่มีปัญหาสุขภาพจิตใจ และจากประสบการณ์ส่วนตัว ฉันพบว่ารากลึก ๆ ของปัญหาสุขภาพจิตใจ ความเครียดทางอารมณ์ ความเศร้าโศก เสียใจ โกรธ ฉุนเฉียว จนถึงซึมเศร้ามีรากมาจากการถูกปฏิเสธ การถูกปฏิเสธ คือ ไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ยอมรับ เราถูกสร้างให้ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ ต้องการความรัก การยอมรับ และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพื่อน และสังคม แต่ความสัมพันธ์มักจะเปราะบางเหมือนแก้ว มีกระทบกระทั่ง มีขัดแย้ง มีแตกหัก และส่งผลต่อบาดแผลในใจ สร้างรอยแผลเป็นแห่งความเจ็บปวด ทำให้รู้สึกไม่ดีพอ  และ ไม่มีค่าพอ บาดแผลจากการถูกปฏิเสธ เกิดขึ้นได้ทุกวัย ถูกปฏิเสธตั้งแต่อยู่ในท้อง เช่นพ่อแม่ท้องโดยไม่ตั้งใจ ไม่พร้อม เพศที่ต้องการ พ่อแม่มีปัญหาในชีวิตคู่ หย่าร้าง คำพูดลบจากพ่อแม่ หรือ บุคคลที่อยู่ในฐานะผู้ใหญ่ ครู อาจาร์ย รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอในสายตาพ่อแม่ พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้านชอบวิจารณ์ ตำหนิ ตัดสิน บ่นว่า ครอบครัวยุ่งกับงาน ไม่มีเวลา ครอบครัวที่ไม่แสดงความรัก…

วิธีรับมือความโกรธ ค้นหาความจริง ภายใต้ภูเขาไฟชื่อโกรธ

ทำไมคุยกันทีไร โมโห ทะเลาะกันทุกที บางทีความโกรธนั้นอาจไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริง แต่มีสาเหตุจากความรู้สึกอื่นในใจจากอดีต ความโกรธประเภทที่สอง เป็นความโกรธที่มีเบื้องหลังจากความรู้สึกอื่นในใจจากอดีต ภายใต้ความโกรธที่แสดงออกมา อาจจะเป็นความอาย เหงา เศร้า เสียใจ กลัว ความไม่เข้าใจกัน รู้สึกถูกดูถูก ทำให้รู้สึกแย่ หรือ ? ค้นหาความเจ็บปวด เสียใจ ภายใต้ ความโกรธ ของคุณ ความโกรธที่เห็นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ออกมาให้เห็น ใต้ภูเขาน้ำแข็งเต็มไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้แสดงออกมา วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าความโกรธของคุณถูกกระตุ้นหรือไม่ ก็คือถ้าปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณมันเวอร์เกินปกติ เพราะเรื่องนิดเดียว เป็นไปได้ว่ามีอะไรที่มากกว่านั้นภายใต้ความโกรธ  ตรงกันข้ามหากคุณพูดหรือทำอะไรแล้วจู่ ๆ อีกฝ่ายโมโหผิดปกติ อย่าเพิ่งรู้สึกผิด เพราะคุณไม่ใช่ปัญหา แต่ คุณเป็นตัวกระตุ้นเท่านั้นเอง ความจริงเกี่ยวกับ ความโกรธ ส่วนใหญ่แล้ว ความโกรธมักจะถูกกระตุ้นจากความเสียใจ ในอดีต คนที่มีสัมภาระอารมณ์ลากติดตัวไว้ด้วย มักจะถูกกระตุ้นได้ง่าย ความโกรธที่เก็บไว้อาจทำลายสุขภาพ และความสัมพันธ์ได้ หลายครั้งความโกรธ มาจาก จากความเสียใจ ผิดหวังในชีวิตที่คนอื่นทำกับคุณหรือพูดกับคุณ หรือไม่ได้ทำ หรือ…